เครือสหพัฒน์ รวมพลัง 13 บริษัท ตั้งกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness โปรโมทสินค้าเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี 4 กลุ่ม “สิ่งทอ-อุปโภค-เครื่องสำอาง-อาหาร”

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะจบลงเมื่อใด รวมทั้งปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี และสังคมไทยก็กำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2566 ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผู้คนมีแนวคิดในการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจากในอดีต หลายคนหันมาใส่ใจสุขภาพและให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของตนเองมากขึ้น เครือสหพัฒน์ได้เล็งเห็นเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงนี้จึงได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่มุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าในกลุ่ม Health Care and Wellness เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการมีสุขภาพดี คุณภาพชีวิตดี มีความสุข และปลอดภัย ซึ่งเป็นที่มาของกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness

กลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness เป็นความร่วมมือของบริษัทในเครือสหพัฒน์ 13 บริษัท ได้แก่ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน), บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน), บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไหมทอง จำกัด, บริษัท เอราวัณสิ่งทอ จำกัด, บริษัท เอสเอสดีซี (ไทยเกอร์เท็กซ์) จำกัด, บริษัท ราชาอูชิโน จำกัด และ บริษัท โอสถ อินเตอร์ แลบบอรอทอรีส์ จำกัด โดยสินค้าที่แต่ละบริษัทฯ นำเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้จะเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ สิ่งทอ สินค้าอุปโภค เครื่องสำอาง อาหาร และยา อาทิ หน้ากากอนามัยแอนตี้ไวรัสและแบคทีเรีย หมอนบรรเทาอาการปวด ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ผ่าตัดมะเร็งเต้านม ชุด PPE ชุดพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เสื้อผ้าฉลากเบอร์ 5 ชุดนอนแอนตี้ไวรัส ชุดสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ผ้าเช็ดตัวต้านแบคทีเรีย ชุดพยาบาลและชุดกาวน์แพทย์ที่ช่วยป้องกันไวรัส ผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน น้ำแร่ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

“การรวมพลังของกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ เป็นการพัฒนาธุรกิจของเครือสหพัฒน์ให้เติบโตในอนาคต เป็นจุดนัดพบและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบ B2C โดยเน้น Direct to Customer โดยในเบื้องต้นกลุ่มฯ ได้จัดทำเฟซบุ๊ก SAHAGROUP Healthcare & Wellness เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมแสดงสินค้าในงานสหกรุ๊ปแฟร์ในนามกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness เป็นต้น” นายบุณยสิทธิ์ กล่าว