III กำไรนิวไฮต่อเนื่อง Q2/64โตกระฉูด 147.2% ผนึกพันธมิตรเสริมแกร่งมั่นใจผลประกอบการทั้งปีเติบโต 2 เท่า

บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ หรือ III เติบโตก้าวกระโดด กำไร Q2/64 แตะ 85.7ล้านบาท ทุบสถิตินิวไฮสองไตรมาสติดต่อกัน กลุ่มธุรกิจหลัก “ขนส่งสินค้าทางอากาศ-โลจิสติกส์สินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์” ยังสดใส เหตุค่าระวางขาขึ้น รวมทั้งกลุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ยังรับรู้รายได้ต่อเนื่อง หนุนครึ่งปีแรกกำไรทุบสถิติทั้งปี 63 พร้อมเป็น “ฮับ” ตัวแทนสายการบิน ดันบริษัทขึ้นสู่ Logistics Integrator ภูมิภาคเอเชีย ด้านธุรกิจพัสดุในประเทศรุ่ง เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ShipSmile อีก 8% ผนึกพันธมิตร “สบาย” จับมือ “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” เบอร์ 1 ขนส่งพัสดุในไทยเสริมแกร่งบริษัท มั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปีโต 2 เท่า

นายทิพย์ ดาลาล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้นำโลจิสติกส์ครบวงจรของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 85.7ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.0 ล้านบาท หรือ 147.2 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต  10.7% จากไตรมาส 1/2564 สร้างสถิติกำไรสุทธิทำนิวไฮติดต่อกันสองไตรมาส เป็นผลจากการเติบโตทั้งจากกลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 4 กลุ่ม และจากการพัฒนาธุรกิจใหม่ ซึ่งรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ครึ่งปีแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิรวม  163.2 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 185.2% และสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2563 ที่ 162.5 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้ 6 เดือนแรกเติบโตเช่นกัน โดยมีรายได้รวม 1,274.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 69.0% แม้เศรษฐกิจรวมยังได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รอบใหม่และการล็อกดาวน์ในประเทศในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

สำหรับรายได้รวมงวดไตรมาส 2/2564 มีจำนวน 641.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 85.1% และมีกำไรขั้นต้น 137.4ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 94.9%จากไตรมาส 2/2563โดยหลักมาจากทุกกลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 4 กลุ่มที่บริษัทฯ มีอยู่ในปัจจุบัน และบริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งจากกลุ่มบริษัท Around Logistics Management และบริษัท DG Packaging Pte., Ltd. โดยล่าสุดบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (ShipSmile) ที่เริ่มรับรู้รายได้เมื่อต้นไตรมาส 2/2564 สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีตามเป้า

สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่ขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรต่อเนื่อง โดยธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นที่จะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อก้าวสู่การเป็น Regional Company ตามกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในภูมิภาค

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (ShipSmile) โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 อนุมัติให้ซื้อหุ้นเพิ่ม 8% มูลค่า 28.0ล้านบาท หลังจากที่เข้าลงทุนในเดือนเมษายนที่ผ่านมาในสัดส่วน 30% เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจขนส่งพัสดุภายในประเทศ ซึ่งการล็อกดาวน์ในไตรมาส 3/2564 ทำให้ปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซและขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก

นายทิพย์ กล่าวว่า การเข้าลงทุนใน ShipSmile ทำให้บริษัทฯ ได้ร่วมดำเนินธุรกิจกับบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY พันธมิตรซึ่งเป็นผู้ร่วมทุน โดยตั้งเป้าหมายร่วมกันต่อยอดพัฒนาโมเดลธุรกิจของ ShipSmileให้มีความน่าสนใจและมีจุดแตกต่างในการแข่งขัน รวมถึงมีบริการการชำระเงินออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าได้มากขึ้น  ทำให้ปัจจุบัน ShipSmile มีจำนวนสาขา 2,400 สาขาและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3,000 สาขาในสิ้นปีนี้ โดยล่าสุด บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ใช้ ShipSmile เป็นจุดรับส่งสินค้า  ซึ่งจะช่วยให้ ShipSmile มีความแข็งแกร่งและมีทางเลือกในการให้บริการแก่ลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ จะใช้จุดแข็งของพันธมิตรอย่าง Makesendเข้าไปช่วยต่อยอดบริการด้านโลจิสติกส์แบบ Sameday Delivery ให้กับ ShipSmile ซึ่งเริ่มให้บริการพื้นที่ของกรุงเทพและปริมณฑล และจะขยายบริการขนส่งสินค้าแบบวันเดียวไปสู่เมืองหลักทั่วประเทศต่อไป

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 3/2564 ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจโลจิสติกส์ ท่ามกลางสภาวะการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงต้องมีการบริหารจัดการซัพพลายให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยได้เพิ่ม Service ใหม่ในเส้นทางที่เป็นประเทศเศรษฐกิจหลักในเอเชีย รวมทั้งการเพิ่มปริมาณตู้คอนเทนเนอร์เพื่อรองรับการให้บริการแก่ผู้ส่งออกและผู้นำเข้ามาตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/2564 และในส่วนการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ ยังให้บริการ Cargo Flight ร่วมกับสายการบินพันธมิตรต่อเนื่อง

“บริษัทฯ มั่นใจว่าครึ่งปีหลังของปี2564 จะยังรักษาความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่องจากทุกกลุ่มธุรกิจและยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่ในทุกรูปแบบ จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะสามารถเติบโตได้เป็นสองเท่าของปี 2563” นายทิพย์กล่าว