เปิดสาเหตุ ทำไมเหล่า ‘บิ๊กเทคคอมปานี’ ถึงเดินหน้าปั้น ‘ชิป’ ของตัวเอง

จะเห็นว่าตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลต่อซัพพลายเชนทั่วโลก โดยเฉพาะซัพพลายเชนของสินค้า ‘อิเล็กทรอนิกส์’ เนื่องจากการใช้งานเทคโนโลยีที่มากขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้สินค้าไอทีเป็นที่ต้องการ และในช่วงปี 2021 นี้ ‘ชิป’ หรือ ‘เซมิคอนดักเตอร์ชิป’ ที่ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญก็ขาดตลาดด้วยเช่นกัน แต่ไม่ใช่แค่เรื่องขาดแคลนที่ทำให้เหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกตัดสินใจที่จะทำ ‘ชิป’ ของตัวเอง

ชิปในท้องตลาดไม่ตอบโจทย์

บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของโลกหลายรายกำลังพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง เนื่องจาก ไม่พอใจกับการพึ่งพาชิปมาตรฐาน ที่มีความต้องการสูง โดยบริษัท อาทิ Apple, Amazon, Facebook, Tesla และ Baidu จากจีนต่างก็กำลังพัฒนาชิปมาใช้เอง

“บริษัทเหล่านี้ต้องการชิปที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเฉพาะของแอปพลิเคชันมากกว่าที่จะใช้ชิปทั่วไปแบบเดียวกันกับคู่แข่ง ด้วยสิ่งนี้ทำให้บริษัทเหล่านั้นควบคุมการผนวกรวมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ได้มากขึ้น ในขณะที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งSyed Alam หัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของ Accenture กล่าว

ด้าน Russ Shaw อดีตกรรมการของ Dialog Semiconductor กล่าวเสริมว่า ชิปที่ออกแบบเองสามารถ ทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้ลดการใช้พลังงาน

“ชิปที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเหล่านี้สามารถช่วยลดการใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์จากบริษัทเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟนหรือบริการคลาวด์”

ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกเป็นสาเหตุให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีความคิดที่จะทำชิปของตัวเอง โดย เกล็น ดอนเนลล์ ผู้อำนวยการวิจัยที่นักวิเคราะห์ บริษัท Forrester กล่าวว่า ”หลายบริษัทรู้สึกว่ามีข้อจำกัดในการก้าวสู่นวัตกรรมของตน”

Photo : shutterstock

ตัวอย่างที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้คือ Apple ที่ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศว่าจากไม่ใช้ชิปของ Intel ที่มีสถาปัตยกรรม x86 โดยหันไปสร้างโปรเซสเซอร์ M1 ของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ใช้งานอยู่ใน iMac และ iPads ใหม่

Tesla ที่ประกาศว่ากำลังสร้างชิป Dojo เพื่อฝึกเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในศูนย์ข้อมูล จากที่ปี 2019 บริษัทได้ เริ่มผลิตรถยนต์ด้วยชิป AI ที่เรียกว่า Hardware 3 ที่ช่วยให้ซอฟต์แวร์ออนบอร์ดตัดสินใจตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องถนน

เมื่อเดือนที่แล้ว Baidu ได้เปิดตัวชิป AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้อุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและเพิ่มพลังการประมวลผล โดย Baidu กล่าวว่าชิป Kunlun 2 เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก และสามารถใช้ได้ในสาขาที่หลากหลาย เช่น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการผลิตสินค้าจำนวนมาก

ชิป M1 ของ Apple ขุมพลังของ Mac ปี 2020

ส่วน Google เพิ่งเปิดตัว Pixel 6 ที่มาพร้อมชิป ARM ของบริษัทเองไปเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มีรายงานใหม่ออกมาว่า บริษัทกำลังพัฒนาชิป ARM สำหรับใช้บน Chromebook เป็นของตัวเองด้วย โดยจะเริ่มใช้ภายในปี 2023

Amazon ซึ่งดำเนินการบริการคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังพัฒนาชิปเครือข่ายของตัวเองเพื่อขับเคลื่อนสวิตช์ฮาร์ดแวร์ที่ย้ายข้อมูลไปทั่วเครือข่าย ถ้ามันใช้งานได้ มันจะลดการพึ่งพา Broadcom ของ Amazon

นอกจากนี้ยังมี Facebook โดยหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ AI ของ Facebook บอกกับ Bloomberg ในปี 2019 ว่าบริษัทกำลังทำงานเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ประเภทใหม่ที่จะทำงาน แตกต่างอย่างมาก จากการออกแบบที่มีอยู่ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทาง Facebook ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในปัจจุบัน

ออกแบบแต่ไม่ผลิต

แม้จะมีแผนว่าจะทำชิปของตัวเอง แต่ไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายใดต้องการทำการพัฒนาชิปทั้งหมดด้วยตนเองเนื่องจากต้นทุนที่สูง โดยการตั้งโรงงานชิปขั้นสูงหรือโรงหล่อของ TSMC ผู้ผลิตเบอร์ 1 ของโลก มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์

“มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพของชิป แต่มันไม่เกี่ยวกับการผลิต ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แม้แต่ Google และ Apple ก็ยังลังเลที่จะสร้างสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น พวกเขาจะใช้บริการ TSMC หรือ Intel”

นอกจากนี้ ปัญหาการ ขาดแคลนผู้ที่มีทักษะในการออกแบบโปรเซสเซอร์ระดับสูง ใน Silicon Valley ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรค เพราะที่ผ่านมา Silicon Valley มักให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์เป็นอย่างมาก ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งวิศวกรรมฮาร์ดแวร์มักถูกมองว่าไม่เจ๋งเท่า

Source