เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา กองทัพสาธารณรัฐกินี ประเทศทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ได้ประกาศยึดอำนาจ ล้มล้างรัฐบาล และควบคุมตัวประธานาธิบดี ประกาศเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้ราคา อะลูมิเนียม แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี เนื่องจากกินีถือเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของแร่หลักที่ใช้ในการผลิตโลหะ
ราคาอะลูมิเนียมฟิวเจอร์ส ใน London Metal Exchange เพิ่มขึ้นมากถึง 1.8% สู่ระดับ 2,775.50 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน หลังจากความวุ่นวายทางการเมืองปะทุขึ้น โดยปัจจุบัน (10 ก.ย.) ราคาอะลูมิเนียมแตะที่ระดับ 2,835 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน
ความไม่สงบในกินีสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อตลาด เนื่องจากประเทศนี้เป็นผู้ผลิต บอกไซต์ ที่ใหญ่เป็น อันดับสองของโลก รองจากออสเตรเลีย ที่สำคัญที่สุด บริษัทจำหน่ายแร่ที่นำเข้าจากจีนมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดของโลก
ไม่ใช่แค่ปัญหารัฐประหารในกินี แต่ที่ราคาอะลูมิเนียมพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากความต้องการโลหะที่พุ่งสูงขึ้นสวนทางกับที่จีนได้ลดการผลิตลง เนื่องจากกำลังพยายามควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากอุตสาหกรรมหนัก และกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพลังงาน
ราคาที่สูงขึ้นจะสั่นสะเทือนทั่วทั้งเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลานี้ที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและระบบพลังงาน
“กองทัพได้ปิดพรมแดนทางบกและทางอากาศ ดังนั้น คาดว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่การหยุดชะงักของซัพพลายเชน” วอร์เรน แพตเตอร์สัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ไอเอ็นจีกล่าว
Eric Humphery-Smith นักวิเคราะห์จาก Verisk Maplecroft บริษัทข่าวกรองความเสี่ยง คาดการณ์ว่า “การดำเนินการต่าง ๆ จะยังคงปิดให้บริการในไม่กี่วันข้างหน้าและอาจเป็นสัปดาห์ที่จะมาถึง ตอนนี้นักขุดมีทางเลือกอื่นเพียงเล็กน้อยนอกจากนั่งนิ่ง ๆ และรอความชัดเจนเพิ่มเติมจากหน่วยงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน”