บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “โฟร์โมสต์” เผยความสำเร็จของโครงการ “โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19” โดยความร่วมมือกับ “มูลนิธิกระจกเงา” ซึ่งได้ส่งมอบนมโคคุณภาพดี จำนวนกว่า 1,030,000 กล่อง จากการสนับสนุนของคนไทยและพนักงานบริษัทฯ ไปถึงมือครอบครัวเด็กไทยในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในพันธกิจของโฟร์โมสต์ที่ยืนหยัดเคียงคู่สังคมไทยมากว่า 65 ปี ด้วยการมอบโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพและความยั่งยืนให้กับทุกคนในทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นายราชเทพ นฤหล้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการ โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19 ในปีนี้ ประสบผลสำเร็จได้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ตั้งแต่พันธมิตรหลัก มูลนิธิกระจกเงา ที่ช่วยให้เราสามารถส่งคืนรอยยิ้มให้แก่ 50 ชุมชน ครอบคลุม แคมป์แรงงานข้ามชาติ ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน โรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด พันธมิตรร้านค้าและผู้ประกอบการ ที่ทำให้เราได้เข้าถึงน้ำใจของคนไทยที่ต้องการมีส่วนร่วมแบ่งปันในครั้งนี้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงพนักงานของเราที่เป็นแรงสนับสนุนองค์กร ให้เดินหน้าสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมที่ยั่งยืน และที่สำคัญที่สุด ผู้บริโภคนมโฟร์โมสต์ ที่ทำให้เราสามารถส่งมอบนมยูเอชทีพร้อมดื่ม โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 ที่เต็มเปี่ยมด้วยโภชนาการและสารอาหารที่สำคัญต่อพัฒนาการทางสมองและร่างกายของเยาวชน จำนวนกว่า 1,030,000 กล่อง แก่เด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้การแบ่งปันน้ำใจในครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ในเดือนแห่งวันแม่ ให้แม่ ๆ ได้ร่วมส่งคืนรอยยิ้ม แบ่งปันความสุขจากการเลือกผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ให้ลูกและคนในครอบครัว”
ดร. โอฬาร โชว์วิวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “นอกเหนือจากการสะท้อนถึงคุณค่าและสิ่งที่องค์กร รวมถึงสังคมไทยให้ความสำคัญอย่าง ‘น้ำใจ’ แล้ว โครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19’ ยังได้สานต่อพันธกิจหลักของฟรีสแลนด์คัมพิน่า ในการมอบโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ทุกคนในทุกวัย ซึ่งเป็นการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมผ่านการส่งมอบโภชนาการที่ดี มีคุณภาพ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาด้านอื่น ๆ
การพัฒนาด้านความยั่งยืนคือหนึ่งใน 4 องค์ประกอบสำคัญของธุรกิจ[1] โดยในปีนี้ที่ฟรีสแลนด์คัมพิน่าก้าวสู่ปีที่ 150 เรายังได้ให้การสนับสนุนและร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญในโครงการต่าง ๆ เพื่อดำเนินการด้านความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคอินโดจีนอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มให้แก่แม่ผู้เดือดร้อนจากโครงการ แม่กักตัว ลูกไม่อดนม ภายใต้ความร่วมมือกับเพจอีจันและเซเว่น อีเลฟเว่น การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการประชาชน และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์นม ให้แก่ Pour un Sourire d’Enfant’s (PSE) องค์กรการกุศล เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเยาวชนที่ขาดแคลนในกัมพูชา”
นางสาววีราภรณ์ ประสพรัตนสุข หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและระดมทุน มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า “จากการลงพื้นที่ของมูลนิธิกระจกเงา เราพบว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อหลายครัวเรือน ถึงขนาดที่หลายครอบครัวที่มีเด็กไม่สามารถหานมให้เด็ก ๆ ได้ ในบางครอบครัวเด็ก ๆ ถึงกับต้องกินน้ำข้าวแทนนม โครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19’ ได้เข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง ถือเป็นคุณูปการอย่างมาก โดยตลอดโครงการ เราได้นำนมโฟร์โมสต์ไปมอบให้ชุมชนผ่านเครือข่ายโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการอาสามาเยี่ยมที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยโควิด-19 คนตกงาน คนกักตัว ทีมชุมชนที่ทำหน้าที่ดูแลผู้เดือดร้อนในระดับชุมชน แคมป์คนงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทีมที่ทำหน้าที่ดูแลแรงงานข้ามชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เด็ก ๆ จากศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และโครงการต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกับโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือกับมูลนิธิดวงประทีปและเครือข่ายคลองเตยดีจังที่ได้มอบนมให้กับชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ในครั้งนี้ โดยที่ผ่านมา ทุกชุมชนดีใจเสมอที่ได้เห็นกล่องนมโฟร์โมสต์ เพราะนั่นหมายถึงเด็ก ๆ จะได้รับสารอาหารที่ขาดไปในช่วงเวลาวิกฤติและยังช่วยให้พวกเขาได้มีรอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง”
“โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19” เป็นโครงการที่บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ในไทยและประเทศในกลุ่มอินโดจีน ริเริ่มขึ้น ในเดือนสิงหาคม เดือนแห่งวันแม่ ด้วยความต้องการให้แม่ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการส่งต่อความมีน้ำใจกลับคือสู่สังคม ต่อยอดจากกิจกรรมเพื่อสังคม ‘โฟร์โมสต์ปันนมปันน้ำใจ’ ที่เคยได้ทำมาอย่างต่อเนื่องให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างบริษัทและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการตอบแทนสังคมอย่างยั่งยืน ในโอกาสครบรอบ 65 ปี โฟร์โมสต์ประเทศไทย และ ครบรอบ 150 ปี ฟรีสแลนด์คัมพิน่าทั่วโลก
ติดตามข้อมูลข่าวสาร และอัปเดตโครงการเพื่อสังคมของโฟร์โมสต์ได้ที่ เว็บไซต์: www.foremostthailand.com
และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ: www.facebook.com/ForemostThailand/