กลุ่ม Thailand Blockchain Working Group (TBWG) ผนึกกำลังพันธมิตร สถาบันการศึกษา และธุรกิจชั้นนำสร้าง xCHAIN ระบบนิเวศบล็อกเชนของประเทศไทยที่พร้อมใช้งานจริง รองรับการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนในอนาคต
ปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งใหญ่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีบล็อกเชนประเทศไทย กับ Thailand Blockchain Working Group (TBWG) พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชนชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มในเครือเจมาร์ท, I AM Consulting ที่ปรึกษาและพัฒนาระบบไอทีสำหรับองค์กรเอนเทอร์ไพรส์, Dome Cloud ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีครบวงจร และ Satang Corporation ผู้พัฒนาบล็อกเชนและเว็บเทรดคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำของประเทศ พร้อมเปิดตัวพาร์ตเนอร์สำคัญ Validator Nodes เพื่อทำหน้าที่ยืนยันการบันทึกข้อมูล โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งสถาบันการศึกษา และองค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด บริษัท ทรูเวฟ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป
วรพจน์ ธาราศิริสกุล, CEO บริษัท บล็อคเชน เวิร์คกิ้ง กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด ตัวแทนกลุ่ม TBWG กล่าวถึงการพัฒนา xCHAIN ว่า “TBWG และพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนา xCHAIN โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยีบล็อกเชนให้เติบโต และสามารถนำไปใช้งานได้จริงเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำให้ระบบนิเวศบล็อกเชนมีความแข็งแกร่งนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีความหลากหลาย พร้อมที่จะช่วยขับเคลื่อนระบบให้เติบโต ซึ่ง xCHAIN ใช้ระบบ PoA (Proof of Authority) หรือ ฉันทามติที่อ้างอิงชื่อเสียงของ Validator Node ซึ่ง Node ของเราประกอบไปด้วยสถาบันการศึกษา องค์กรธุรกิจระดับเอนเทอร์ไพรส์ และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ตอกย้ำให้ xCHAIN มีความปลอดภัย โปร่งใส น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้”
“จาก pain point ของการทำธุรกรรมบล็อกเชนทั่วโลก เราจึงได้แก้ปัญหาในเรื่องของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ด้วยการพัฒนา XTH Token เหรียญอรรถประโยชน์ (Utility Token) เพื่อใช้ชําระค่าธรรมเนียม (Gas fee) สำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้งานบน xCHAIN และสามารถนำ XTH มาใช้เป็นตัวกลางในการรับชำระค่าใช้งานแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้น ทั้งนี้ สามารถซื้อโทเคน XTH ได้โดยใช้เงินบาท หรือ JFIN Token ก็ได้”
“ด้วยความตั้งใจของกลุ่ม TBWG ที่ต้องการผลักดันให้ xCHAIN เป็นระบบบล็อกเชนสำหรับทุกคน (xCHAIN: Blockchain for Everyone) เราจึงสร้างระบบนิเวศให้แข็งแกร่ง เพื่อเปิดโอกาส และสนับสนุนให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และยังรองรับการพัฒนา DApps (Decentralized applications) สำหรับพาร์ตเนอร์ และนักพัฒนาทุกคนที่ต้องการสร้าง DApps ของตัวเองบนระบบบล็อกเชน โดยเริ่มต้นเรามี DApps พื้นฐานซึ่งพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมใช้งานจริงได้แก่ xWALLET, xBRIDGE, xORACLE และ xLAUNCH” วรพจน์กล่าวเสริม
สำหรับงานเปิดตัว xCHAIN: Start Your Blockchain Era ในครั้งนี้ มีตัวแทนองค์กรที่เป็น Validator Nodes เข้าร่วมงานในรูปแบบออนไลน์ พร้อมทั้งยังได้มีพาร์ตเนอร์ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันจริงบน xCHAIN จากสถาบันการศึกษา และธุรกิจที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ แนวคิด และกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์ จาก อ.ดร. อัคเดช อุดมชัยพร หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลอัจฉริยะพระจอมเกล้าลาดกระบัง คุณปิยพันธ์ วงศ์ยะรา CEO, Stock2morrow คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย Co-Founder, Khon Kaen City Development และคุณอภิชัย เรืองศิริปิยะกุล CEO, Think Technology Ltd.
สำหรับองค์กร และนักพัฒนาที่ต้องการร่วมเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบนิเวศบล็อกเชนของประเทศไทย กับ xCHAIN สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.xchain.asia หรือสอบถามข้อมูล www.facebook.com/TBWGOfficial หรือ อีเมล [email protected]