“บู๊ทส์” ตอกย้ำผู้นำด้านสุขภาพครบวงจร ให้คำปรึกษาเรื่องยา เวชภัณฑ์แบบ ONE-STOP SERVICE


ต้องบอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คนไทยมีการดูแลสุขภาพร่างกายเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากเทรนด์การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ก็ต่างพากันออกสูตรใหม่ที่ลดน้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย รวมไปถึงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้คนไทยตื่นตัวที่จะดูแลตัวเองมากขึ้นไปอีกหลายระดับ นอกจากดูแลแล้ว ยังไปถึงระดับปกป้อง และสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้นด้วย

ทำให้บู๊ทส์เห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา เวชภัณฑ์ อาหารเสริม รวมไปถึงร้านค้าปลีก และโรงพยาบาลต่างๆ

เมื่อไม่นานมานี้ “บู๊ทส์ ประเทศไทย” ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รับเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนไทย ได้ประกาศปรับ Brand Value ใหม่สู่การเป็น “Health & Wellness Solutions Provider” โดยชูจุดเด่นด้วยบริการ New Medicine Service อัปเกรดการให้คำปรึกษาเรื่องยา และเวชภัณฑ์ แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เรียกว่าดูแลแบบ ONE-STOP SERVICE พร้อมดูแลคนไทยให้สุขภาพดีครบวงจร


คนไทยกังวลทั้งสุขภาพกาย และใจ

เหตุผลที่ธุรกิจด้าน Health & Wellness มีการเติบโต และเป็นที่สนใจมากขึ้นในประเทศไทย หรือแม้กระทั่งทั่วโลกเลยก็ตาม เพราะผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องสุขภาพมากขึ้น สุขภาพในที่นี้มีทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจนั่นเอง

ในเรื่องของสุขภาพกายนั้น พบว่าคนไทยมีปัญหาด้านสุขภาพ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค เผยว่า 5 อันดับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยในยุคปัจจุบัน ได้แก่ 1. โรคความดันโลหิตสูง 2. โรคเบาหวาน 3. โรคหลอดเลือดสมอง 4. โรคหลอดเลือดหัวใจ และ 5. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

โรคต่างๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ อาหารการกิน การดูแลตัวเอง อาจมีกรรมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เมื่อสะสมมากขึ้นก็กลายเป็นภัยเงียบและปัญหาโรคเรื้อรังในที่สุด

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คนไทยมีการค้นหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ อ้วน ไต และซึมเศร้ามากที่สุด(ข้อมูลจาก Google trends, Thailand Disease concerns, 1-30 August 2021) สะท้อนได้ว่าในช่วงล็อกดาวน์ คนไทยมีความกังวลใจเรื่องอ้วน และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกักตัวอยู่บ้าน แล้วกินอาหารมากขึ้น รวมถึงการกินอาหารไม่เป็นเวลา

ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น นอกจากจะส่งผลกระทบในด้านร่างกายอย่างหนักหน่วง แต่ก็ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจไม่แพ้กัน หลายคนได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม บางคนต้องตกงาน เพราะผู้ประกอบการแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว เกิดความไม่แน่นอนทางการเงิน เกิดความเครียดจนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าอีกด้วย

อย่างไรก็ดี การขอคำปรึกษาบางแห่งมีค่าบริการสูง หรือต้องจองคิวนาน แต่สำหรับบู๊ทส์สามารถให้คำปรึกษาได้แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยปัญหาสุขภาพหลักๆ ที่คนมาปรึกษากับเภสัชกรบู๊ทส์ ได้แก่ ข้อมูลโรค COVID-19, ปัญหา Office Syndrome หรือ Work From Home Syndrome, ความเครียดจากการทำงาน และเรื่องการซื้อยาที่ตัวเองใช้ประจำเพื่อรักษาอาการของโรคเรื้อรัง รวมไปจนถึงปรึกษาเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ปัญหาทางด้านการเงินก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยเข้าถึงบริการทางด้าน Health & Wellness ได้ยากขึ้น


Telemedicine ทางเลือกใหม่ในยุค 4.0

การมาของเทคโนโลยี 5G ยิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในหลายๆ อุตสาหกรรม ที่ต้องปรับตัวเพื่อให้เท่าทันต่อเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในวงการการแพทย์เองก็ได้เกิดเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telemedicine ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการพบแพทย์ และปรึกษาด้านสุขภาพ

ยิ่งในช่วงล็อกดาวน์ ยิ่งต้องมีการรักษาระยะห่างกันมากขึ้น เทคโนโลยีนี้จึงเข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ที่ผ่านมาจะได้เห็นหลายเจ้าที่ลงมาพัฒนา Telemedicine อย่างจริงจัง ทั้งผู้เล่นโอเปอเรเตอร์ โรงพยาบาล และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งแต่ละรายก็จะมีลักษณะของบริการที่แตกต่างกันไป รวมถึงค่าบริการด้วย

ทางด้านบู๊ทส์เองได้เปิดตัว Boots Mobile App แอปสุขภาพครบวงจรตั้งแต่ปี 2563 และเมื่อไม่นานมานี้ได้เปิดฟีเจอร์ใหม่ ‘Talk to Pharmacist’ เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ สามารถใช้บริการได้ฟรีอีกด้วย

‘Talk to Pharmacist’ คือบริการให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพที่เชื่อถือได้จากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์ พร้อมดูแลสุขภาพคนไทยแบบ O2O (Online to Offline) เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัจจุบัน บู๊ทส์มีจำนวน 240 สาขาทั่วประเทศ มีเภสัชกรของบู๊ทส์จำนวน 288 คน ที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ และตอบปัญหาแบบส่วนตัว ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับ COVID-19 โรคประจำตัว ความกังวลใจเรื่องสุขภาพ ผิวพรรณ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพต่างๆ

เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์ ได้ผ่านการอบรมความรู้ด้านสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า เภสัชกรบู๊ทส์สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความกังวลใจด้านสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 วัคซีน และการดูแลตนเอง โดยพร้อมให้บริการคนไทยครบครันทุกช่องทาง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ปรับลุคสู่ Health & Wellness Solutions Provider

เนื่องจากบู๊ทส์ประเทศไทยมีพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญระดับโลก คือ วอลกรีนส์บู๊ทส์อลิอันซ์ (หรือดับเบิ้ลยูบีเอ) กิจการระดับโลกแห่งแรกที่ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีชั้นนำ จึงได้นำมาตรฐานระดับโลกมาดูแลให้คนไทยทั้งประเทศเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ง่าย พร้อมมีสุขภาพกายและใจที่ดียิ่งขึ้น

บู๊ทส์จึงได้ประกาศปรับ Brand Value ใหม่สู่การเป็น “Health & Wellness Solutions Provider” อัปเกรดบริการการให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย #มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ปรึกษาเรื่องสุขภาพฟรี! เพื่อดูแลสุขภาพคนไทยแบบครบวงจร

อรพรรณ พงศ์พานิช Head of Customer Experience บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย เผยว่า

“เพื่อสานต่อพันธกิจ ‘บู๊ทส์มีความมุ่งมั่นในการเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีโดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของเราให้คนไทยทุกคน’ เราพร้อมนำเสนอโซลูชั่นการดูแลสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นใน 3 มิติได้แก่ 1. การสรรหาหรือเลือกสรรสินค้าที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานมาให้ลูกค้าทุกคน 2. การมีเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์คอยดูแลคุณในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ 3. บริการแบบครบวงจรที่ทำให้สินค้าและบริการเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สามารถเข้าถึงได้สะดวกและง่ายมากขึ้น พร้อมความรู้ความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มั่นใจได้


ดูแลครบ จบแบบ ONE-STOP SERVICE

หลายคนต้องการปรึกษาด้านสุขภาพ แต่ไม่ต้องการเดินทางไปโรงพยาบาล แต่เมื่อค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็พบว่า มีการวินิจฉัยโรคที่แตกต่างกันไป ซึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกอย่างมาก การเปิดบริการใหม่ของบู๊ทส์จึงเรียกว่าตอบโจทย์ยุค New Normal อย่างเต็มตัว

ในแง่ของการให้บริการคำปรึกษานั้น บู๊ทส์พร้อมดูแลแบบครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมยาและเวชภัณฑ์กว่า 3,000 รายการ ที่ได้มาตรฐานครบครันที่สุด ให้ลูกค้าทุกคนอุ่นใจเรื่องยาเพียงปรึกษากับเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 288 คน ที่พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล

การให้คำปรึกษานั้นจะผ่านทั้งทางหน้าร้านบู๊ทส์ 240 สาขาทั่วประเทศ, Boots Mobile App: Talk to Pharmacist ที่ให้บริการตั้งแต่ 9.00-21.00 น.ทุกวัน รวมไปถึง LINE Chat & Shop ของร้านบู๊ทส์แต่ละสาขา

แค่การให้คำปรึกษาอย่างเดียวไม่พอ บู๊ทส์ยังดูแลครบวงจรแบบ Omnichannel โดยที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ได้ในทันที ทางร้านก็ได้จัดเตรียมสินค้า มอบความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยการนัดมารับที่หน้าร้าน นอกจากนี้ ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บู๊ทส์ก็ยังมีตัวช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการได้อย่างมั่นใจ กับบริการผ่าน Grab และเซอร์วิสอื่นๆ มาเสริมในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านเพื่อเจอกับความเสี่ยงรอบตัว

จะเห็นได้ว่าบริการ #มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ ครบวงจรแบบ Omnichannel เป็นการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ยุค New Normal จริงๆ เป็นการพัฒนาจากการเข้าใจอินไซต์ของลูกค้าว่าต้องการอะไร มี Pain Point อย่างไรบ้าง สามารถตัดความกังวลในการเข้าถึงบริการเรื่อง Health & Wellness ไปได้

มายกระดับการดูแลสุขภาพของคุณกับบู๊ทส์ประเทศไทย ที่ร้านบู๊ทส์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่าน Boots Mobile App แอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพครบวงจร ดาวน์โหลดได้ที่ https://bit.ly/3wbObtD

หรือปรึกษาเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ LINE Chat & Shop: http://bit.ly/3qgm9KY

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/bootsthailand

นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เป็นเวลา 24 ปีแล้ว ที่บู๊ทส์ ประเทศไทย ได้ดูแลสุขภาพของคนไทย และยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะคอยอยู่เคียงข้าง พร้อมนำเสนอโซลูชันที่จะช่วยให้ชีวิตของคนไทยมีสุขภาพที่ดี และมีความสุขมากขึ้น