ฮิตาชิ จับมือ MQDC ร่วมลงนามความร่วมมือ พัฒนาแผนแม่บทดิจิทัล Placemaking 5.0 พลิกโฉมมิกซ์ยูสไทย พร้อมสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบ 360 องศา

 

  • ฮิตาชิและ MQDC ร่วมลงนามความร่วมมือการพัฒนาแผนแม่บทดิจิทัลPlacemaking 5.0 (เพลสเมกกิ้ง 0) เสริมกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
  • นวัตกรรมทางดิจิทัลนี้จะสร้างประสบการณ์ที่ดีมอบความตื่นเต้นด้วยกิจกรรม สร้างความเพลิดเพลินให้ลูกค้าอยากใช้เวลาอยู่ในโครงการมากขึ้น โดยองค์ประกอบแรกของแผน Placemaking นี้จะเริ่มในปี 2565 ที่โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค
  • ความร่วมมือในระยะยาวครั้งนี้จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลรูปแบบใหม่มาสู่ประเทศไทยผ่านโครงการของ MQDC ซึ่งรวมถึงเดอะ ฟอเรสเทียส์ และอีก 5 โครงการหลักที่กำลังจะเกิดขึ้น

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ฮิตาชิ โดยบริษัทฮิตาชิเอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจับมือกับบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ร่วมลงนามความร่วมมือ(MOU) ในการสร้างและดำเนินการแผนแม่บทดิจิทัล MQDC Placemaking 5.0 หรือ MQDC Placemaking 5.0 Digital Masterplan

แผนแม่บทดิจิทัล MQDC Placemaking 5.0 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะใช้เทคโนโลยีในการจัดหาสินค้าและบริการ เพื่อทำให้เป็นสถานที่ที่ดึงดูดลูกค้าในชุมชนมารวมตัวและใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งแผนแม่บทนี้จะสร้างประสบการณ์ที่ดีในรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าเป็นรายบุคคล (CX) ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยใช้ระบบธุรกิจอัจฉริยะร่วมกับแพลตฟอร์มหลากหลายช่องทางหรือ omni-channel platforms เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ของธุรกิจค้าปลีก สำนักงาน และการบริหารทรัพย์สินหลังสถานการณ์โควิด-19

ฮิตาชิ และ MQDC จะนำนวัตกรรมที่ดีที่สุดของธุรกิจค้าปลีกและสำนักงานมาใช้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC โดยจะเริ่มในปี 2565 ที่โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค (TDPK) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการมิสซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง MQDC และ ทรู พร็อพเพอร์ตี้ ทั้งนี้เรื่องของความสุข สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดียังคงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ในอนาคต เพื่อส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของทุกคนไปในแนวทางที่ดีขึ้น

เทคโนโลยีที่ทางฮิตาชิ จะนำมาใช้กับ MQDC Placemaking 5.0 ประกอบไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและดิจิทัลโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้ารายบุคคล (CX) โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้

  • การดำเนินธุรกิจแบบสแตน-อโลน (Stand-alone business operations) – ร้านค้าปลีกอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่ไม่มีพนักงานขาย แต่มีกล้องและเทคโนโลยีการขายหน้าร้าน(POS)เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยจากโควิด และทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ในร้านสามารถรับรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการในการซื้อสินค้าของลูกค้าในแบบเรียลไทม์
  • มีหน้าจออัจฉริยะ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง Augmented Reality เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทุกอย่าง ทุกเวลา และทุกที่
  • การทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล – สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทรู ดิจิทัล พาร์คผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องในการตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค
  • เพิ่มมูลค่าการให้บริการของผู้เช่า – ออกแบบวิธีการจัดส่งสินค้าจากร้านค้าไปถึงลูกค้าโดยตรงแบบอัตโนมัติด้วยช่องทาง omni-channel เพื่อลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน เพิ่มความสะดวกให้กับการซื้อขายแบบไร้เงินสดที่ทางทรู ดิจิทัล พาร์คมีอยู่แล้ว
  • วิเคราะห์แนวโน้มและความต้องการของลูกค้า – มีการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าด้วยกล้องที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและความต้องการเชิงลึกของลูกค้า โดยวิธีการเชื่อมโยงความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่องานอีเว้นต์และกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือการทำงานของผู้เช่าในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าและชุมชนได้ดียิ่งขึ้น

ฮิตาชิและ MQDC จะเริ่มแผน 5.0 นี้ที่โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค หนึ่งในศูนย์กลางของสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณย่านไซเบอร์เทคของกรุงเทพฯ อย่างปุณณวิถึ ตัวโครงการประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีก โครงการที่อยู่อาศัย และสำนักงานกว่า 200,000 ตารางเมตรที่เปิดให้บริการแล้ว และอีก 80,000 ตารางเมตรที่จะเปิดให้บริการในปี 2565 โดยแผนแม่บท 5.0 จะทำการวิเคราะห์การวางพื้นที่ ด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความยั่งยืน และการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถแนะนำโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้อีกด้วย

ทั้งนี้แผนแม่บทดิจิทัล MQDC Placemaking 5.0 จะสร้างประสบการณ์นวัตกรรมให้กับลูกค้ารายบุคคล (CX) เพื่อเปลี่ยนแนวคิดการค้าปลีกและสำนักงานในประเทศไทย:

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ MQDC ในการพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ผ่านโครงการมิกซ์ยูสที่โดดเด่นทั้งทรู ดิจิทัล พาร์ค และ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ความร่วมมือในครั้งนี้จะขับเคลื่อนความสามารถของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการใช้ดิจิทัลโซลูชันสำหรับร้านค้าปลีกในอนาคต และเพื่อเป็นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะสำหรับเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกอีกด้วย” –นายแวน แทง, ผู้อำนวยการ สมาร์ท ดิจิทัล โซลูชัน, ฮิตาชิ เอเชีย (ประเทศไทย)

“MQDC Placemaking 5.0 จะสร้างชุมชนการค้าปลีกที่สมบูรณ์แบบ ด้วยบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ความร่วมมือในครั้งนี้ใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของฮิตาชิที่จะช่วยให้ MQDC สามารถพัฒนาทรู ดิจิทัล พาร์ค และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า (CX) และยังเป็นการช่วยเหลือผู้เช่าในด้านการปรับปรุงการให้บริการและมีแพลตฟอร์มสร้างรายได้นอกจากนี้เรายังวางแผนที่จะใช้แผนแม่บทนี้กับทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ซึ่งรวมถึงเดอะ ฟอเรสเทียส์ อีกหนึ่งโครงการมิกซ์ยูสที่โดดเด่นของเราด้วยมูลค่า 125,000 ล้านบาท (4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ที่จะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566” – นายคิบซาน เบ็ค ประธานผู้อำนวยการ –Placemaking, MQDC

เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าวฮิตาชิได้กำหนดเป้าหมายระยะยาวในการใช้ข้อมูลเมืองและประชากรในหลายภาคส่วน เพื่อสร้างบริการที่เพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงธุรกิจค้าปลีกและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (CX) ตามที่ได้ระบุไว้ในบันทึกความร่วมมือ ระหว่าง ฮิตาชิและ MQDC ในครั้งนี้ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วย

โดย MQDC ดำเนินธุรกิจภายใต้พันธกิจ “For All Well-Being” ซึ่งทั้ง MQDC และฮิตาชิหวังว่ากรอบการทำงานของ MQDC Placemking 5.0 ที่มีรายละเอียดขั้นสูงจะสามารถสร้างประโยชน์และพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับสร้างความยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลังต่อไป

เกี่ยวกับบริษัทฮิตาชิ จำกัด

บริษัทฮิตาชิ จำกัด (TSE:6501) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ มุ่งเน้นในเรื่องของธุรกิจนวัตกรรมทางสังคมที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีการดำเนินงาน (OT) และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยรายได้รวมของบริษัทสำหรับปีงบประมาณ 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 8,729.1 พันล้านเยน (78.6 พันล้านดอลล่าร์) มีบริษัทในเครือ 871 แห่ง มีพนักงานประมาณ 350,000 คนทั่วโลก ทั้งนี้ฮิตาชิให้ความสำคัญในการทำงานเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจให้กับลูกค้าใน 6 โดเมนคือ ไอที พลังงาน อุตสาหกรรม การขนส่ง ชีวิตอัจฉริยะ และระบบยานยนต์ผ่าน Lumadaซึ่งเป็นดิจิทัลโซลูชันและเทคโนโลยีขั้นสูงของฮิตาชิ สำหรับเปลี่ยนข้อมูลปกติให้เป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิตาชิได้ที่ www.hitachi.com

เกี่ยวกับบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ดำเนินธุรกิจการพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม โครงการคอมมูนิตี้ ดิสทริค และ ธีมโปรเจกต์ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้คำมั่นสัญญา ‘For All Well-Being’

MQDC พัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการมิกซ์ยูสและธีมโปรเจกต์ภายใต้แบรนด์แมกโนเลียส์ (Magnolias)

วิสซ์ดอม (Whizdom) ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) มัลเบอร์รี่ โกรฟ  (Mulberry Grove) และเดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) เพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและสร้างการใช้ชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

MQDC ได้ให้การรับประกัน 30 ปีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม

การประยุกต์ปรัชญา ‘.’นวัตกรรมแห่งความยั่งยืน” MQDC มุ่งมั่นที่จะนำพาภาคธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น MQDC ได้ให้การสนับสนุนงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นศูนย์การวิจัยแห่งแรกของเอเชียที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสรรพสิ่งบนโลก พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยเอกชนที่ทำการศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลที่สำคัญต่ออนาคต เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับมนุษยชาติ

รวมถึงจัดตั้ง MQDC Placemaking ที่มีหน้าที่ในการพัฒนาและดำเนินงานสร้างองค์ประกอบด้านธุรกิจค้าปลึก สำนักงาน และพื้นที่ส่วนสาธารณะในโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นที่โครงการมิกซ์ยูสและโครงการแบบบูรณาการขนาดใหญ่

MQDC ดำเนินงานพร้อมกับการคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก มากกว่านั้นยังมีเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อสังคมโดยรวม ข้อมูลเพิ่มเติม www.mqdc.com