บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ได้กล่าวในการบรรยายสรุปที่การประชุมสุดยอดภูมิอากาศ COP26 ในเมืองกลาสโกว์ ว่า อีก 30 ปีข้างหน้า หุ้นของบริษัท ‘น้ำมัน’ จะมีมูลค่าน้อยมาก ดังนั้น หากจะลงทุนระยะยาวควรหลีกเลี่ยง!
ในขณะที่โลกกำลังพยายามลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจทำให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ที่ครองตลาดมานานกว่าศตวรรษอาจประสบปัญหาในอนาคต โดย บิล เกตส์ มองว่ายักษ์เหล่านี้บางรายจะ ล้มลง ในอีก 30 ปีนับจากนี้ บางส่วนของผู้บริษัทน้ำมันจะมี มูลค่าน้อยมาก
โดยราคาหุ้นของบริษัทต่าง ๆ เช่น ExxonMobil, BP และ Royal Dutch Shell ได้ลดลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ซึ่งนั่นส่งผลให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ของบริษัทพลังงานดั้งเดิมเหล่านี้
ExxonMobil ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา สูญเสียเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แม้บริษัทยังคงมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.75 แสนล้านดอลลาร์ แต่เมื่อประเทศอย่างสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนนโยบายด้านพลังงานเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอุตสาหกรรมยานยนต์มุ่งสู่อนาคตไฟฟ้า นักลงทุนก็เริ่มมีความสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของหุ้นบริษัทน้ำมัน
“สำหรับบริษัทน้ำมัน เรายังไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นตัวแทนของธุรกิจที่ดีในระยะยาว” David Moss หัวหน้าฝ่ายหุ้นยุโรปที่ BMO Global Asset Management กล่าว
“บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่หันธุรกิจไปสู่รูปแบบพลังงานหมุนเวียนจะมีโอกาสที่จะอยู่รอดได้” บิล เกตส์ กล่าว แต่ในเดือนพฤษภาคม Heymi Bahar นักวิเคราะห์ของหน่วยงานพลังงานระหว่างประเทศ บอกกับ “Street Signs Europe” ว่า บริษัทน้ำมันรายใหญ่ไม่น่าจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีหมุนเวียน
ในกลาสโกว์ บิล เกตส์ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าบริษัทน้ำมันสามารถเปลี่ยนธุรกิจของพวกเขาได้ค่อนข้างง่ายจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดกว่า อาทิ ไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ ซึ่งเมื่อถูกเผาจะปล่อยคาร์บอนขึ้นไปในอากาศน้อยกว่าก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เป็นไปได้
“เรามีโครงสร้างพื้นฐานด้านท่อส่งน้ำมันในสหรัฐอเมริกาที่อาจสามารถติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อส่งไฮโดรเจนได้” เกตส์กล่าว