‘Disney+’ บริการสตรีมมิ่งของค่าย Disney ที่กำลังจะอายุครบ 2 ปี ขณะนี้มีสมาชิก 118.1 ล้านคน เติบโตขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ผลประกอบการกลับน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นร่วงลงมากถึง 4.5% เนื่องจากความกังวล
โดยรวมแล้ว Disney (ดิสนีย์) มีรายได้ 18.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้ว แต่แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อยที่ 18.8 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนสมาชิกของ Disney+ เพิ่มขึ้นมาเพียง 2 ล้านราย อยู่ที่ 118.1 ล้านราย จากที่ไตรมาส 2 สามารถเติบโตได้ถึง 12 ล้านราย
ตัวเลขที่ซบเซาของ Disney+ ทำให้นักลงทุนกังวล ซึ่งน่าจะเกิดจากปัจจัยมากมาย ส่งผลให้หุ้นร่วงมาถึง 4.5% อย่างไรก็ตาม Bob Chapek ซีอีโอของ Disney เคยเตือนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า การเติบโตของ Disney+ ในไตรมาส 4 อาจชะลอตัวลง พร้อมเน้นย้ำว่า บริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจสตรีมมิ่งสำหรับ “ระยะยาว” มากกว่าเพียงแค่ “ไตรมาสต่อไตรมาส”
“เรายังคงจัดการธุรกิจ DTC ของเราต่อไปในระยะยาว และมั่นใจว่าความบันเทิงคุณภาพสูงและการขยายสู่ตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก จะช่วยให้เราเติบโตแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของเราทั่วโลกต่อไป” เขากล่าว
เมื่อต้นปี Disney+ กลายเป็นเรือชูชีพชั่วคราวที่ช่วยให้บริษัทฝ่าฟันพายุไปได้ เนื่องจากบริษัทถูกโควิดเล่นงาน ทั้งในตัวของสวนสนุกและการฉายภาพยนตร์ในโรง โดย Disney+ ถือเป็นสตรีมมิ่งที่เติบโตเร็วสุดในตลาด โดยมีสมาชิกครบ 100 ล้านรายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Netflix ผู้นำในโลกสตรีมมิ่ง
แม้การเติบโตของ Disney+ จะแผ่วลง เพราะสถานการณ์โควิดได้คลี่คลายลง แต่อย่าลืมว่า Disney เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และนอกเหนือจากธุรกิจดิจิทัลหลักแล้ว การดำเนินงานอีกหลายส่วนที่เริ่มฟื้น อาทิ หน่วย Parks, Experiences and Products ของบริษัท ซึ่งครอบคลุมสวนสนุกและสินค้าต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการระบาดใหญ่ โดยมีรายได้เพิ่มเป็น 5.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 99% จาก 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว