เปิดเมืองยุคใหม่ด้วยโครงการ วิลล่า ฟอเรสต์ บ้านบึง ชลบุรี มูลค่า 2,000 ล้านบาท ด้วยแนวคิด “วิถี-ดี ภายใต้ปรัชญา บ-ว-ร” โดย ธีระธัช รัตนกมลพร ผู้นำของการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชลบุรี มุ่งสรรสร้างคุณภาพควบคู่ไปกับการเพิ่มมูลค่าของที่อยู่อาศัยโดยให้ความสำคัญกับการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวกับผู้อยู่อาศัยและผู้ลงทุน โดยชูจุดโดดเด่นของโครงการที่สะท้อนถึงการสร้างชุมชนเมืองคุณภาพให้เป็น “ปอดแห่งแรกของบ้านบึง” รายล้อมด้วยสินทรัพย์ทางธรรมชาติและอารยธรรมท้องถิ่นที่หล่อหลอมให้เป็น สังคมใหม่ของ“บ้านสวนคนเมือง” อย่างแท้จริง การริเริ่มและพัฒนาเมืองใหม่ในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับหน่วยงานของ “เอสซีจี” สำหรับการพัฒนาแบบบ้านที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตร่วมกันของทุกรุ่นทุกวัยได้อย่างกลมกลืนและลงตัว
ธีระธัช รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพนพลัส แอสเสท จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรี ที่มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 25 ปี เปิดเผยว่า ล่าสุดสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ สำหรับโลกวิถีใหม่ ด้วยความใส่ใจในทุกมิติ ในการนำธรรมชาติและการสร้างสิ่งแวดล้อมดี เพื่อความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวคิดใหม่ โครงการวิลล่า ฟอเรสต์ (Villa Forest) มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาที่ดินบนพื้นที่ 150 ไร่ ในเขตบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ขึ้นเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ในวิถีธรรมชาติเป็นบ้านสวนคนเมือง ที่ส่งเสริมชีวิตที่สมดุลของความอยู่ดีมีสุข กายแข็งแรงใจเป็นสุข (Balance of Life) ภายใต้ปรัชญาของคำว่า บ-ว-ร ที่สะท้อนถึงการพัฒนาชีวิตวิถี-ดี ควบคู่ไปกับความสุขที่ยั่งยืน ซึ่งหล่อหลอมให้บ้านในโครงการนี้มีให้มากกว่าคำว่า “บ้าน” ที่ออกแบบตามดีไซน์ ยังมีวัดที่มาของการพัฒนาจิตใจ และโรงเรียนที่เป็นการเรียนรู้รอบด้านควบคู่คุณธรรม
โครงการนี้ได้พื้นฐานแนวคิดมาจาก การพัฒนาเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ โครงการโคกหนองนา เป็นต้นแบบการพัฒนาให้เป็นที่อยู่อาศัยวิถี-ดีจากธรรมชาติ ด้วยแบบบ้านที่หลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารชุด ให้เหมาะกับแต่ละความต้องการ ซึ่งโครงการประกอบด้วยชุมชนเมืองที่มีทั้งที่อยู่อาศัย ศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติเชิงกสิกรรม (Learning Farmer Centre) และโรงเรียนนานาชาติ Wells International School, Chonburi Campus บนที่ดิน 24 ไร่
วิลล่า ฟอเรสต์ เป็นการพัฒนาโครงการบ้านสวนภายใต้แนวคิด ‘วิถี-ดี’ ด้วยต้นแบบที่อยู่อาศัย 5 ดี ซึ่งสะท้อนถึงการอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน ได้แก่ ดี 1 ทำเลดี เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจใหม่ เดินทางสะดวก ดี 2 สิ่งแวดล้อมดี เป็นชุมชนรักษ์ธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดี 3 สังคมดีมีความผูกพันและความสัมพันธ์อันดีที่หล่อหลอมด้วยความรัก ความอบอุ่น ความสามัคคี การแบ่งปันและเกื้อกูลกัน ดี 4 สุขภาพดี การสร้างสรรค์บ้านให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย มีความปลอดภัย ปลอดโรค เอื้อคุณค่าแห่งความสุขที่เรียกว่า ‘กายแข็งแรง ใจเป็นสุข’ และ ดี 5 แรงบันดาลใจที่ดี การริเริ่มเรื่องราวของชุมชน
บ้านที่สะท้อนถึงชุมชนของการอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน เป็นที่มาของแนวคิดโครงการวิลล่า ฟอเรสต์ บ้านสวนคนเมือง ณ บ้านบึง ชลบุรี
คอนเซ็ปต์ในการออกแบบบ้านในโครงการเป็นไปตามแนวคิดวิถี-ดี ที่ได้กล่าวไว้ โดยดึงเอาวิถีชีวิตของคนไทยในเรื่องของความสามัคคีและการใช้ชีวิตกับธรรมชาติให้อยู่อย่างยั่งยืน แล้วนำวิวัฒนาการในโลกยุคปัจจุบันมาผสมผสานในการออกแบบระหว่างชีวิตคนเมืองและธรรมชาติ ดังนั้นการออกแบบบ้านทุกหลังจะให้ความสำคัญกับการปรับใช้ทรัพยากรธรรมชาติ “ดิน น้ำ ลม ไฟ” มาผสมผสานและประยุกต์ให้เกิดความสมดุลของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน “ดิน (จากตีนเขา)” คือแหล่งที่อยู่เพื่อใช้เพาะปลูกและก่อกำเนิดของอาหารและแร่ธาตุต่างๆ “น้ำ” คือ ความสมบูรณ์ของใต้ผืนดินที่เป็นเส้นทางน้ำไหลจากใต้ดินสู่ทะเลสาบภายในโครงการซึ่งเรียกว่า‘ธนาคารน้ำ’ จึงเกิดประโยชน์มหาศาลต่อแผ่นดินไทย เกิดความชุ่มชื่นสดชื่น และที่สำคัญที่สุดก็คือ มีประโยชน์มากในการกักเก็บน้ำยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ำยามน้ำหลากซึ่งจะทำให้ไม่เกิดน้ำท่วมนั่นเอง“ลม” คือ ทิศทางของลมที่พัดผ่านอย่างไร้กำแพงจากแหล่งเขาเขียว ทำให้ชีวิตร่มเย็นสบาย “ไฟ” คือ พลังงานจากแสงอาทิตย์ (เป็นพลังงานสะอาด) ที่สร้างประโยชน์และอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน เราตอบโจทย์การออกแบบโดยให้บ้านทุกหลังมีชานบ้านเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างไร้ขีดจำกัด สมาชิกภายในบ้านจะใช้ชีวิตและสัมผัสประสบการณ์ร่วมกับพลังงานธรรมชาติ “ดิน น้ำ ลม ไฟ” ได้อย่างลงตัว
“เราต้องการสร้างชุมชน วิลล่าฟอเรสต์ ให้เป็นปอดธรรมชาติแห่งแรกของบ้านบึงด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และระบบนิเวศที่เป็นมิตร ด้วยปณิธานที่จะนำความสุข สุขภาพดี และจิตใจที่สงบสุขอย่างยั่งยืนมาสู่ทุกคน” ธีระธัช ย้ำและว่าการพัฒนาแบบบ้านในโครงการนี้ เป็นการร่วมมือกับหน่วยงานเอสซีจี เพื่อพัฒนาบ้านที่เป็นมากกว่าคำว่า “บ้าน” คือออกแบบรองรับชีวิตที่สะดวก ปลอดภัยและปลอดเชื้อโรคหรือมลพิษต่างๆ สำหรบแบบบ้านนั้นจะเป็นแบบทาวน์โฮม ‘แคทรียา’ สไตล์นอร์ดิก หรือบ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น และบ้านเดี่ยวสไตล์วิถีไทย ซึ่งได้รับการปรึกษาและออกแบบโดย เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลิฟวิ่ง แคร์ คอนซัลติ้ง (SCG Building & Living Care Consulting) ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวชั้นเดียว ‘พริมโรส’ บ้านเดี่ยวสองชั้น ‘คาร์เนชั่น’ และบ้านเดี่ยวสองชั้น ‘ทิวลิป’
วีรเลิศ อมิตรพ่าย รองผู้อำนวยการ เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลิฟวิ่ง แคร์ฯ กล่าวว่า คอนเซ็ปต์ในการออกแบบเป็นไปตามแนวคิดวิถี-ดีของโครงการวิลล่า ฟอเรสต์ ‘บ้านสวนคนเมือง’ เป็นชุมชนของการอยู่อาศัยยุคทันสมัย เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย และสะดวกสบาย
โดยวัสดุที่เลือกใช้เป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้จริง หรือบางส่วนผสมไม้ฉาบปูนเรียบทาสีเอิร์ธโทน สีน้ำตาลและสีเขียว โดยวัสดุทุกอย่างโปร่งแสงโปร่งใส ทำให้ได้รับแสงสว่าง ประหยัดพลังงาน และช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ ตัวบ้านทั้ง 3 แบบ จะเน้นประโยชน์ใช้สอยและและการใช้งานที่ผสมผสานความเป็นวิถีไทยและความทันสมัยอย่างกลมกลืน มีพื้นที่ใช้สอยมาก เพิ่มการทำกิจกรรมกับครอบครัว และปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค โดยเฉพาะในยุคที่ต้องล็อกดาวน์
บ้านในโครงการได้รับการออกแบบพื้นที่ให้เว้นระยะห่าง และมีห้องทำความสะอาดก่อนเข้าบ้าน สามารถเก็บกักตัวได้ในพื้นที่ชั้นล่างที่เชื่อมกับห้องน้ำได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ห้องกันเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี สำหรับบ้สำหรับบ้านบางแบบยังมีพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน มีต้นไม้การจัดสวนที่ร่มรื่นช่วยดูดซับมลพิษ และเป็นที่พักสายตา ทั้งยังเพิ่มความร่มเย็นภายให้บ้านซึ่งทุกหลังได้รับความใส่ใจในรายละเอียด มีการดีไซน์ห้องน้ำเพื่อผู้สูงอายุ มีอ่างอาบน้ำที่อยู่ในพื้นที่ชมวิวสวยได้ในยามกลางวัน และดื่มด่ำกับการอาบน้ำใต้แสงจันทร์ในยามค่ำคืน เป็นอีกหนึ่งการตอบโจทย์ชีวิตวิถี-ดี
เป้าหมายของวิลล่า ฟอเรสต์ คือการสร้างดุลยวิถี ดุลยชีวิต ‘กายแข็งแรง ใจเป็นสุข’ ธีระธัช กล่าวว่าแนวคิดนี้ทำให้ย้อนกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้กายแข็งแรงและใจเป็นสุข ซึ่งต้องอาศัยทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ซึ่งการพัฒนาก็แบ่งเป็นสองส่วน คือ Globalization ความเจริญของมวลมนุษยชาติ อีกส่วนคือ Localization เป็นท้องไร่ท้องนา เท้าเหยียบดิน ปลูกผัก มีน้ำ มีปลา
บริเวณทะเลสาบจะถูกเนรมิตให้เป็นสองฝั่งความแตกต่าง โดยฝั่ง Globalization จะมี Club House ที่เรียกว่า Club Tel และมีสระว่ายน้ำยาว 30 เมตร มีศูนย์จัดงานเลี้ยง มีสวนสวยที่ร่มรื่นและสดชื่น ส่วนอีกฝั่งคือ Localization เป็นฝั่งท้องถิ่นภายใต้คอนเซ็ปท์ บ-ว-ร ของไทย เป็นทิวทุ่งนา มีโคก มีรีสอร์ท มีพื้นที่ปลูกพืชผักที่ใช้บริโภคได้ เป็นวิถีธรรมชาติที่อยู่ได้ด้วยตัวเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยวิลล่า ฟลอเรสต์ จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพียงหนึ่งเดียวของชลบุรี ที่มีรูปแบบการพัฒนาผสมผสานความเป็นธรรมชาติบนพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่าง ทำให้โครงการมีมูลค่าเพิ่มคุ้มค่าสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนท้องถิ่น 35 % กลุ่มต่างชาติ 35 % และกลุ่มคนกรุงเทพฯ 35 % ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าสนใจด้วยที่นี่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาน้ำสายลมและแสงแดดที่จะทำให้ชีวิตทุกๆ วัน อยู่ดีมีสุข และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ส่วนความคืบหน้าด้านการตลาด ปัจจุบันมีลูกค้าจองบ้านในโครงการไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ตัวโครงการและพื้นที่ศูนย์รวมกิจกรรม วิลล่าฟาร์ม โรงนาที่เป็นศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ และศูนย์รวมองค์ความรู้ วัฒนธรรม อารยธรรมต่างๆ รวมทั้งศูนย์รวมตำนานของอร่อยของบ้านบึงมาไว้บริการด้วย คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ส่วนการพัฒนาจะทยอยแล้วเสร็จเป็นเฟส 1-2-3-4 โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 3 ปี
“สิ่งที่ผมฝันไว้ คือทำชุมชนใหม่ที่ยังไม่เคยมี เช่น หมู่บ้านนี้เราจะมีสถานที่ให้คนมารวมกัน ร่วมกิจกรรมพัฒนากายและใจด้วยกัน ผู้อยู่อาศัยจะใช้ชีวิตตั้งแต่ตื่นขึ้นมาและสิ้นสุดของวันตามวิถี-ดีบนพื้นที่ธรรมชาติที่มีพร้อมทั้งสินทรัพย์และทรัพยากรทางดิน น้ำ ลม ไฟ ที่สามารถนำขึ้นมาปรับและใช้ได้อย่างลงตัวและตามความจำเป็นอย่างพอเพียง” ธีระธัช กล่าวสรุปถึงเป้าหมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้พัฒนาโครงการวิลล่า ฟอเรสต์ เป็นชุมชนบ้านสวนคนเมืองวิถี-ดี หนึ่งเดียวในพื้นที่จังหวัดชลบุรี