รู้จัก ‘Web3’ อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ ‘อีลอน มัสก์’ ซัดว่าเป็น ‘ศัพท์การตลาด’ ไม่มีทางเกิดจริง

หลายคนที่รู้จักกับ Cryptocurrency หรือ Bitcoin ก็คงต้องรู้จักกับ บล็อกเชน (Blockchain) เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่ง Blockchain นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวคิดทำในการสร้างระบบที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางอีกต่อไป เนื่องจากเป็นการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ เช่นเดียวกับ Web3 หรืออนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจโดยอิงจากบล็อกเชน

รู้จัก Web3

ก่อนจะไปรู้จักกับ Web3 เรามารู้จักกับ Web1 และ Web2 กันก่อน โดย Web1 ทำหน้าที่ให้ข้อมูลในรูปแบบสื่อสารทางเดียว (One Way Communication) หรือ Static Web โดยผู้ใช้งานไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ มีเพียงเจ้าของเว็บหรือผู้ผลิตข้อมูลป้อนไว้เท่านั้นที่จะนำเสนอและอัปเดต-แก้ไขเนื้อหาข้อมูลต่าง ๆ

เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าวทำให้ในปี 2000 ก็ได้ถือกำเนิดเป็น Web2 ที่ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลนั้นง่ายกว่าเดิม และทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือนจริงที่มากขึ้นกว่าเดิม เริ่มมีการพัฒนาทั้งระบบการค้นหาของ Google ต่อมาก็ก่อเกิดชุมชนออนไลน์อย่าง Facebook และจากนั้นก็เป็นยุคทองของเหล่า Tech Company ซึ่ง Web2 ก็คืออินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันจนทุกวันนี้

สำหรับ Web3 จะเป็นอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจโดยใช้บล็อกเชน เนื่องจาก Web1 และ Web2 มีการรวมศูนย์มากเกินไป และอยู่ในกำมือของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ เช่น Google ของ Alphabet, Amazon, Apple และ Meta บริษัท แม่ Facebook ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้รวบรวมข้อมูลและเนื้อหาจำนวนมหาศาลที่แบ่งปันบนอินเทอร์เน็ต

โดยแนวคิดของ Web3 คือ อินเทอร์เน็ตที่ชาวเน็ตจะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลของตนเอง จะมีการบันทึกในทุกกิจกรรมของผู้ใช้งานในรูปแบบของบล็อกเชนโดยที่ข้อมูลดังกล่าวเหล่าบริษัทใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป โดยข้อมูลทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตอยู่ภายใต้การจัดเก็บและการจัดการแบบรวมศูนย์ผ่าน Server ที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ AI มาใช้อีกด้วย

Photo : Pixabay

มัสก์สับเป็นแค่ ศัพท์ทางการตลาด

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ Web3 ว่า เป็น ศัพท์ทางการตลาดมากกว่าที่เป็นความจริง

“ผมไม่ได้บอกว่า web3 จะไม่เกิดขึ้นจริง แต่มันดูเหมือนคำศัพท์ทางการตลาดมากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริงในตอนนี้ แค่สงสัยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรในอีก 10, 20 หรือ 30 ปี ซึ่งมันฟังดูล้ำยุคมาก”

และวันวันต่อมา อีลอน มัสก์ก็ได้ทวิตว่า “มีใครเห็น web3 บ้างไหม? ผมหาไม่เจอ”

ต่อมา แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์ (Twitter) ที่เพิ่งประกาศลงจากเก้าอี้การเป็นซีอีโอทวิตเตอร์มาหมาด ๆ ได้ทวิตตอบโต้ว่า “มันอยู่ที่ไหนสักแห่งระหว่าง a และ z” หรือสื่อเป็นนัย ๆ ว่า Web3 อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทุน a16z กองทุนของบริษัท Andreessen Horowitz ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน Facebook รุ่นแรกและปัจจุบันเป็นผู้สนับสนุน Web3

ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้เห็น Web3 เมื่อไหร่ และยังไม่แน่ว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริงไหม เพราะไม่ใช่แค่ Web3 ที่ถูกขนานนามว่าเป็นอนาคตใหม่ของอินเทอร์เน็ต แต่ยังมี Metaverse หรือ โลกเสมือน ที่กำลังพูดถึงอย่างมาก หรือโลกของอินเทอร์เน็ตในอนาคตอาจเป็นการผสมผสานของ Web3 กับ Metaverse ก็เป็นได้