Metaverse ที่อาจจะพูดได้ว่าเป็นอินเทอร์เน็ตยุคต่อไป ซึ่งจะเป็นยุคของโลกเสมือนจริงที่มนุษย์โต้ตอบผ่านอวตารสามมิติ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ก็ประกาศชัดว่าจะมุ่งพัฒนา Metaverse โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Meta และประกาศลงทุนถึง 10,000 ล้านดอลลาร์
ไม่ใช่แค่ในฝั่งโลกตะวันตกเท่านั้น ฝั่งเอเชียเองก็มีประเทศจีนที่ไม่ยอมตกขบวน อย่าง Baidu (ไป่ตู้) เทคคอมปานี ที่วางแผนจะพัฒนา Metaverse เช่นกัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า XiRang และบริษัทจะใช้ในการประชุม metaverse ครั้งแรกของจีน ในงานนักพัฒนาประจำปี
โดน Ma Jie รองประธานของ Baidu กล่าวว่า บริษัทเริ่มพัฒนาแอปเริ่มต้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ยังคงใช้เวลาประมาณ 6 ปี ในการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ แต่แอปของ Baidu ที่มีอยู่ตอนนี้สามารถรองรับผู้เข้าร่วมเสมือนได้ 100,000 คนสำหรับการประชุม
ทั้งนี้ Baidu มีเป้าหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับนักพัฒนา Metaverse ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโลกเสมือนจริง และงานที่จะจัดในวันจันทร์ถือเป็นการเปิด XiRang ให้กับนักพัฒนา โดยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนในตอนนี้
“การเปิดกว้างเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท และด้วยการส่งเสริมการพัฒนาโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถนำมาใช้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วยิ่งขึ้น” Ma Jie รองประธานของ Baidu กล่าว
Brian Tycangco นักวิเคราะห์จาก Stansberry Research กล่าวว่า Metaverse ยังคงเป็นคำที่นิยมในชุมชนเทคโนโลยีและการลงทุนทั่วโลก แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และผู้คนจำนวนมากไม่เข้าใจถึงความหมายของคำว่าวันนี้หรือจะหมายถึงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
“เห็นได้ชัดว่าไป่ตู้พยายามก้าวไปข้างหน้าเพื่อ ‘เป็นเจ้าของ’ metaverse ในตลาดบ้านเกิดของตน” Brian Tycangco นักวิเคราะห์จาก Stansberry Research กล่าว
ทั้งนี้ Baidu ก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 22 ปีที่แล้วในฐานะเสิร์ชเอนจิ้นของประเทศจีน และตั้งแต่นั้นมาก็ได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่คลาวด์คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ โรโบแทกซิสและเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลจีนควบคุมอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด โดยบล็อกเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างประเทศอย่าง Facebook, Twitter รวมถึงเสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Google โดยเคยได้ให้บริการในจีนเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น