“โลตัส” ตอกย้ำการเป็น “แพลทฟอร์มแห่งโอกาส” พา SME และเกษตรกรไทย เติบโตอย่างยั่งยืน


ต้องบอกว่าทิศทางขององค์กรใหญ่ๆ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ไม่มีใครที่อยากเติบโตไปแค่คนเดียว ย่อมต้องการให้สังคม และธุรกิจเล็กๆ เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างการเติบโตในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มั่นคงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ถึงแม้ว่า “โลตัส” จะเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีก มีสาขา และพันธมิตรทั่วประเทศ แต่โลตัสเองก็ไม่เคยลืมที่จะพาคนตัวเล็กๆ ให้เดินไปด้วยกัน ในปีที่ผ่านมา โลตัสเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยมากมาย และได้สานต่อความมุ่งมั่นนั้นในปี 2565 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็น “แพลทฟอร์มแห่งโอกาส” อย่างแท้จริง

ในปีที่แล้วโลตัสได้ช่วยเหลือ SME และเกษตรกรไทยเกือบ 7,000 ราย ผ่านโครงการต่างๆ ตั้งแต่การเจรจาทางธุรกิจออนไลน์ทุกเดือน นำไปสู่การเพิ่มสินค้า SME กว่า 1,000 รายการ จำหน่ายในสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ รับซื้อสินค้าเกษตรตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางในทุกภูมิภาค ไปจนถึงการเปิดพื้นที่ในศูนย์การค้าให้คนตัวเล็กฟรีท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรอบด้านอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนที่ครอบคลุมทุกมิติ

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า

“โลตัส ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก เรามุ่งมั่นดูแลลูกค้าให้ ‘รู้สึกดีดี ทุกวันที่โลตัส’ ผ่านการบริการ และสินค้าคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง ไปพร้อมๆ กับการดูแลชุมชนและสังคม รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME ที่เป็นรากฐาน และหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โลตัสสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ในกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ และเป็นพันธมิตรที่คอยสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME ให้มีรากฐานที่มั่นคง และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

การสนับสนุนของโลตัสได้ออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการในแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้น หรือระดับใหญ่ ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้ และโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการมีพื้นที่จำหน่ายสินค้า หรือจะเป็นคำแนะนำในการประกอบธุรกิจก็ตาม จากการดำเนินงานตลอดปี 2564 โลตัสยังได้สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ผ่านการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพกว่า 1,600 ราย และลดค่าเช่าในศูนย์การค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 1,500 ราย ในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME นำเสนอสินค้าต่อฝ่ายจัดซื้อของโลตัส ผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) โดยได้พัฒนาและเพิ่มคู่ค้ารายใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการ SME ที่มีศักยภาพ จำนวน 724 ราย และเพิ่มสินค้า SME คุณภาพ จำนวน 1,125 รายการ ในปีที่ผ่านมา

  • ผู้ประกอบการในระดับเริ่มต้น : มีการจัดอบรมให้ความรู้เบื้องต้น และมอบพื้นที่ในศูนย์การค้าฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1,670 ราย ได้เปิดบูธจำหน่ายสินค้า ทดลองตลาด และขยายฐานลูกค้าผ่านสาขาของโลตัสทั่วประเทศผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ Food and Art Free Market
  • ผู้ประกอบการในระดับกลาง : เสริมสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม พัฒนาศักยภาพ ยกระดับมาตรฐานสินค้า มาตรฐานคุณภาพ และมาตรฐานการผลิตรวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เชื่อถือได้ ให้กับผู้ประกอบการเพื่อเตรียมความพร้อมในการวางจำหน่ายสินค้าในโลตัส

ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมสูง สามารถวางจำหน่ายสินค้า SME ทั้งในกว่า 2,100 สาขา และช่องทางออนไลน์ของโลตัส เข้าถึงฐานลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมโอกาสในการส่งออก

เริ่มต้นปี 2565 โลตัส ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเป็นแพลทฟอร์มแห่งโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME ด้วยการจัดโครงการ “รวมพลังลดใหญ่ สนับสนุน SME ไทยให้เติบโตไปด้วยกัน” สนับสนุนคู่ค้า SME กว่า 1,600 รายให้สามารถเพิ่มยอดขาย ผ่านการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ การจัดวางสินค้าในพื้นที่พิเศษที่มีความโดดเด่นในสาขาและช่องทางออนไลน์ รวมถึงการสื่อสารให้ลูกค้าและประชาชนรับทราบในวงกว้าง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าทั่วประเทศ โดยมีสินค้า SME ที่มีคุณภาพและเอกลักษณ์กว่า 17,000 รายการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งโครงการ “รวมพลังลดใหญ่ สนับสนุน SME ไทยให้เติบโตไปด้วยกัน” จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม – 2 มีนาคม พ.ศ. 2565 ช่วยให้ลูกค้าได้รับรู้และได้เข้าถึงสินค้า SME สนุบสนุนให้ SME ไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

นางสาวศรี ปานสูง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ดี.เจ.อินเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เราได้ทำงานร่วมกับโลตัสมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2550 โดยเริ่มจากการผลิตถุงขยะสีดำให้กับทางโลตัส ในปี 2559 บริษัทและโลตัสได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เราได้ร่วมกันพัฒนาและผลิตถุงขยะที่มีสีและกลิ่นภายใต้แบรนด์โลตัส ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า อีกทั้งโลตัส ยังช่วยเพิ่มขีดจำกัดของบริษัท ทำให้มีสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาดอยู่เสมอ พร้อมยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่การส่งออกไปยัง โลตัส มาเลเซีย ในปี 2561 ช่วยให้เราสามารถเปิดโรงงานแห่งที่สองขึ้นได้ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับการสนับสนุนเกษตรกรไทย โลตัส ยังคงดำเนินโครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร (Direct Sourcing) มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ได้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรตรงจากเกษตรกรกว่า 1,400 ครัวเรือน จากทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวมผลผลิตที่รับซื้อตรงจากเกษตรกรกว่า 1,820 ตัน เพื่อส่งมอบผักสดคุณภาพสูง ปลอดภัย ในราคาที่เอื้อมถึง ให้กับลูกค้า

โลตัส มีแผนงานที่ชัดเจนในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตร และสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย ที่เป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยทำงานจะร่วมกันกับพันธมิตรทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพ พร้อมต่อยอดการเป็น “แพลทฟอร์มแห่งโอกาส” ให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย ให้มีรากฐานที่มั่นคง และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน