‘Facebook’ ซุ่มพัฒนา ‘AI-Supercomputer’ ที่แรงสุดในโลกเพื่อช่วยกรอง ‘Hate Speech’

‘Meta’ หรือ ‘Facebook’ เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียโลกนั้นเชื่อมานานแล้วว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) สามารถช่วยงานที่ยากลำบากในการกลั่นกรองโพสต์จากผู้ใช้หลายพันล้านคน และตอนนี้บริษัทกำลังดำเนินการขั้นตอนที่ช่วยให้สามารถขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่แสนยากนั้นมากขึ้นนั่นก็คือการสร้าง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) มาช่วย

Meta เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าบริษัทได้เปิดตัว AI Research SuperCluster (RSC) ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับโครงการวิจัยด้าน AI ที่จะมาช่วยให้ Meta สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ซึ่งอาจมีประโยชน์สำหรับงานที่ยุ่งยาก เช่น การระบุคำพูดแสดงความเกลียดชังของโพสต์ในแพลตฟอร์ม

“ด้วย RSC เราสามารถฝึก AI ที่สามารถศึกษาตัวอย่างได้หลายล้านรูปแบบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าใจบริบทของโพสต์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของภาษา ภาพ และโทน” Shubho Sengupta วิศวกรซอฟต์แวร์ของ Meta กล่าว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งมีโปรเซสเซอร์ที่เชื่อมต่อถึงกันจำนวนมากหรือที่เรียกว่า โหนด ได้กลายเป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการวิจัย AI โดยในปัจจุบัน สหรัฐฯ มี Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งถูกวิจัยและพัฒนาโดย กระทรวงพลังงานสหรัฐ ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ช่วยในการตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ เช่น โปรตีนที่ไม่คุ้นเคย นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft และ Nvidia ก็มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานของตนเองเช่นกัน

Meta เปิดเผยว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัทมี GPU 6,080 ตัว แบ่งออกเป็น 760 โหนด ซึ่งนั่นอาจทำให้มันเป็นหนึ่งในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยขนาดในปัจจุบันนั้นเทียบเท่ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Perlmutter และเมื่อแล้วเสร็จในปลายปีนี้ บริษัทคาดว่า RSC จะมี GPU เพิ่มเป็น 16,000 ตัว ซึ่งมันจะสามารถประมวลผลได้เกือบ 5 exaflops หรือทำงาน 5 quintillion ต่อวินาที

“เมื่อเราสร้าง RSC เสร็จสมบูรณ์ มันจะมีขนาดเกือบ 3 เท่า ซึ่งจะทำให้เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลก ตามความรู้ของเรา” Sengupta กล่าว

ทั้งนี้ นักวิจัยของบริษัทได้เริ่มใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในการฝึกเกี่ยวกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติและการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ และนักวิจัยจะสามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อ “วิเคราะห์ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ” และเมื่อเวลาผ่านไป Meta หวังว่าจะ RSC จะช่วยให้บริษัทสามารถ “สร้างระบบ AI ใหม่ทั้งหมด” ซึ่งสามารถทำงานที่ยากในการคำนวณ เช่น การแปลแบบเรียลไทม์สำหรับคนที่พูดภาษาต่างกัน

บริษัท กล่าวว่า การทดสอบในช่วงต้นแสดงให้เห็นว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ได้เร็วกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถึง สามเท่า นั่นหมายถึง โมเดล AI ที่ต้องใช้เวลา 9 สัปดาห์จะสามารถย่นเวลาเหลือ 3 สัปดาห์ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และในที่สุดซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะนำไปสู่เทคโนโลยีที่จำเป็นในการสร้าง ‘Metaverse’ ซึ่ง Facebook ได้วางตำแหน่ง metaverse เป็นอนาคตของบริษัท

Source