LINE BK ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทย เผยผลการดำเนินงานปี 2564 เติบโตดีเยี่ยม ตอบรับกระแสคนไทยเปิดใจรับบริการ Social Banking มากขึ้น พบยอดผู้ใช้งานทะลุ 3.9 ล้านราย ภายใต้การเปิดให้บริการกว่า 1 ปี พร้อมเดินเกมรุกตลาดต่อเนื่องก้าวข้ามความท้าทายในปี 2565 ชู 3 กลยุทธ์หลัก ทั้งด้านการเข้าถึงลูกค้าให้กว้างและมีคุณภาพขึ้น การพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์การเงินที่สะดวกกว่าเดิม และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความครบครันด้านบริการทางการเงิน พร้อมเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ขยายกลุ่มลูกค้าทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้ลูกค้ารู้จักและเข้าถึง LINE BK ได้มากขึ้นตามคอนเซ็ปต์ ‘เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ’
ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2564 ที่ผ่านมา LINE BK ยังสามารถเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ซึ่งนอกจากจะมีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 3.9 ล้านราย บริการต่าง ๆ ของ LINE BK ยังได้รับความสนใจอย่างมาก เห็นได้จากข้อมูลการเปิดใช้งาน 4 บริการหลัก ได้แก่ บัญชีเงินฝากจำนวน 4.5 ล้านบัญชี บัญชีเงินออมดอกพิเศษ จำนวนกว่า 1 แสนบัญชี บัตรเดบิต จำนวน 2 ล้านบัตร และบริการวงเงินให้ยืมกว่า 5 แสนบัญชี ยอดรวมการปล่อยสินเชื่อกว่า 27,000 ล้านบาท
ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกรไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับปี 2565 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายของ LINE BK ที่จะส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดีให้แก่คนไทย โดยมุ่งมั่นพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์การเงินในชีวิตประจำวัน ที่สะดวก ปลอดภัย และครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์ ‘เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ’ โดยนอกจาก 4 บริการหลัก ทั้งบัญชีเงินฝาก บัญชีเงินออมดอกพิเศษ บัตรเดบิต และบริการวงเงินให้ยืม บริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ ในการเปิดตัวบริการอื่น ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้แข็งแกร่ง และครอบคลุมความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น รวมทั้งจะได้เห็นการทำแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ ที่จะนำเสนอความสนุกและสร้างสีสันให้กับบริการวงเงินให้ยืม”
อย่างไรก็ตามกลยุทธ์สำคัญของ LINE BK ในปี 2565 ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก ทั้งด้านบริการสินเชื่อ และบริการด้านธุรกรรมทางการเงินการธนาคาร แบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์ ดังนี้
1.การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดีขึ้นและกว้างขึ้น โฟกัสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยมีการพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนการสมัครทั้งการเปิดบัญชีให้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม รวมทั้งการประเมินความเสี่ยงเพื่ออนุมัติสินเชื่อที่ได้มีการพัฒนาระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลให้อัจฉริยะและพิจารณาข้อมูลได้แม่นยำขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากและมีคุณภาพไปพร้อมกัน ซึ่งการที่บริษัทฯ สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการพอร์ทสินเชื่อได้ดียิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงหลายๆ เรื่อง เช่น การผิดนัดชำระคืนหรือการไม่มีความสามารถในการชำระคืนของลูกค้า รวมถึงการไม่เบิกใช้วงเงินของผู้ที่ได้รับอนุมัติวงเงินเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
นอกจากนั้นจะมีการทำการตลาดเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ๆ โดยเฉพาะตลาดแมสในต่างจังหวัด โดยยังจะเน้นกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ เหมือนปีที่ผ่านมา คือ กลุ่มพนักงานเงินเดือน รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระ และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ เป็นต้น ทั้งนี้ลูกค้าจะได้เห็นแคมเปญใหญ่ของ LINE BK ที่จะมาสร้างสีสัน ช่วยให้เข้าถึงและสื่อสารได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
2.พัฒนาบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ โดยจะมีการพัฒนาต่อยอดจากจุดแข็งของ LINE BK ที่อยู่ในแอปพลิเคชัน LINE ทำให้การโอนเงินหากันในแชทสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ QR โอนเงิน เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มักนิยมใช้แอปพลิเคชัน LINE สแกน QR ในชีวิตประจำวัน
3.เปิดตัวบริการใหม่ เพื่อเพิ่มความครบครันของบริการการเงิน เตรียมเปิดตัวบริการใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์การเป็น Social Banking ที่มีบริการทางการเงินครบครัน โดยมีแผนจะเปิดตัวช่วงกลางปีนี้
ธนา กล่าวสรุปว่า “ในปีนี้จะเห็นภาพการเป็น Social Banking ของ LINE BK ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเราจะเน้น การผสานบริการทางการเงินให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับช่องทาง LINE ซึ่งเป็นแอปแชทหลักที่คนไทยใช้ โดยเฉพาะในยุคโควิดแบบนี้ LINE BK จะมุ่งมั่นพัฒนาและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่คนไทย ในส่วนของบริการเดิมเราจะพัฒนาให้รู้ใจและมีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น (Personalized) เพื่อให้บริการทางการเงินง่ายและลื่นไหลไม่ต่างจากการหยิบมือถือขึ้นมาเล่นโซเชียลมีเดีย ที่สำคัญเราอยากช่วยเพิ่มโอกาส ให้กับคนไทยจำนวนมากที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก ให้สามารถขอสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้นและมีความปลอดภัย ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ที่ LINE BK ตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างเสมอมา เพื่อให้เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ”