‘ยูนิลีเวอร์’ (Unilever) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลกกำลังเลิกจ้างงานพนักงานระดับบริหาร 1,500 คนทั่วโลกจากพนักงานทั้งหมดกว่า 149,000 คนทั่วโลก เนื่องจากบริษัทกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากผู้ถือหุ้น จึงต้องปรับโครงสร้างเพื่อกระตุ้นการเติบโต
การลดจำนวนดังกล่าวทำให้จำนวน ผู้จัดการอาวุโสลดลง 15% และ ผู้จัดการระดับจูเนียร์ลดลง 5% ส่วนพนักงานอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบ โดย ยูนิลีเวอร์ ให้เหตุผลในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ว่า บริษัทกำลังเปลี่ยนไปใช้โครงสร้างที่ “เรียบง่ายกว่า” โดยแบ่งออกเป็น 5 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ ความงามและความเป็นอยู่ที่ดี การดูแลส่วนบุคคล การดูแลบ้าน โภชนาการ และไอศกรีม โดยแต่ละหน่วยมี ประธานของตัวเอง
“การยกเครื่องครั้งนี้จะทำให้ยูนิลีเวอร์ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและช่องทางที่หลากหลายได้มากขึ้น การเติบโตยังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะสนับสนุนการเติบโตของเรา” Alan Jope ซีอีโอ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นได้เพิ่มแรงกดดันต่อยูนิลีเวอร์หลังจากที่หุ้นของบริษัททรุดตัวลง 10% ในปีที่แล้ว หุ้นของบริษัทถูกทุบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่บริษัทเปิดเผยว่าได้ล้มเหลวจากการประมูลถึง 3 ครั้งเพื่อซื้อธุรกิจดูแลสุขภาพผู้บริโภคของ GlaxoSmithKline โดยยูนิลีเวอร์กล่าวว่า จะไม่เพิ่มข้อเสนอที่ถูกปฏิเสธจำนวน 5 หมื่นล้านปอนด์ (6.8 หมื่นล้านดอลลาร์)