สรุปการ ‘เลิกจ้าง’ จากบิ๊กเทคฯ ปี 2025 ที่อ้างว่าเพราะ AI!

ตามข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Challenger, Gray & Christmas ระบุว่า AI เป็นสาเหตุของการเลิกจ้างพนักงานในสหรัฐฯ เกือบ 55,000 ตำแหน่ง ในปีนี้ โดยภาพรวมในปี 2025 มีการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 1.17 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 (ซึ่งขณะนั้นมีการเลิกจ้าง 2.2 ล้านตำแหน่ง)

เฉพาะในเดือนตุลาคม นายจ้างในสหรัฐฯ ประกาศลดตำแหน่งงานไป 153,000 ตำแหน่ง และในเดือนพฤศจิกายนอีกกว่า 71,000 ตำแหน่ง ซึ่งในจำนวนของเดือนพฤศจิกายนนี้ มีกว่า 6,000 ตำแหน่งที่ระบุว่าสาเหตุมาจาก AI ดังนั้น ไปดูกันว่า บริษัทชั้นนำที่อ้างถึง AI ในกลยุทธ์การปรับโครงสร้างปี 2025 นี้ มีใคร และลดไปเท่าไหร่บ้าง

Amazon

ในเดือนตุลาคม Amazon ประกาศเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตัดลดตำแหน่งงานในระดับองค์กรถึง 14,000 ตำแหน่ง เพื่อนำงบประมาณไปลงทุนในสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญที่สุด ซึ่งรวมถึง AI

โดย Beth Galetti รองประธานอาวุโสของ Amazon ระบุว่า AI ยุคนี้คือ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกที่สุดนับตั้งแต่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้บริษัทต้องปรับตัวให้คล่องตัวขึ้น (Lean) และลดขั้นตอนการทำงานซ้อนซ้อน

Microsoft

ลดพนักงานไปแล้วประมาณ 15,000 ตำแหน่ง ในปี 2025 โดยล่าสุดในเดือนกรกฎาคมมีการเลิกจ้าง 9,000 ตำแหน่ง โดย Satya Nadella ซีอีโอระบุว่า บริษัทจำเป็นต้อง จินตนาการพันธกิจใหม่ สำหรับยุค AI โดยเปลี่ยนจากโรงงานผลิตซอฟต์แวร์ไปสู่ Intelligence Engine

ภาพจาก Shutterstock

Meta

Meta ยังคงมีการปรับลดคนอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 โดยมีการลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 3,600 ตำแหน่ง (หรือราว 5% ของพนักงานทั้งหมด) ในช่วงต้นปี และมีการเลิกจ้างเพิ่มอีกประมาณ 600 ตำแหน่ง ในหน่วยงานด้าน AI เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

โดย Mark Zuckerberg ซีอีโอเน้นการ “ยกระดับมาตรฐาน” โดยเลิกจ้างพนักงานที่มีผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ เพื่อนำงบประมาณไปจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน AI โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างในทีม Fundamental AI Research (FAIR) เพื่อให้การวิจัยเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานจริงได้เร็วขึ้น

Google

Google ยังคงเดินหน้าลดตำแหน่งงานต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการแข่งขันในสงคราม AI กับคู่แข่งอย่าง Microsoft และ OpenAI โดยตลอดปี 2025 มีการลดพนักงานหลายรอบ รวมถึงพนักงานในส่วน Cloud, ฮาร์ดแวร์, และทีมงานด้านการโฆษณา นอกจากนี้ยังมีการปลดพนักงานสัญญาจ้าง (Contractors) ที่ทำงานด้าน AI อย่าง Gemini ไปกว่า 200 ราย โดย Sundar Pichai ระบุชัดเจนว่าต้องการลดลำดับชั้นการบริหาร (Layers) ลงกว่า 1 ใน 3 เพื่อให้บริษัทตัดสินใจและพัฒนา AI ได้รวดเร็วขึ้น

Apple 

โดยปกติ Apple จะเป็นบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานน้อยที่สุดในกลุ่ม Big Tech แต่ในปี 2025 ก็เริ่มมีการขยับตัวเพียงแต่ไม่มีการระบุจำนวน โดยมีการเลิกจ้างใน ฝ่ายขาย (Sales) และ ฝ่ายบริการดิจิทัล (เช่น Apple Books และ Apple News) เพื่อปรับโครงสร้างทีมขายให้ทันสมัยขึ้น

Tesla

มีการตัดลดพนักงานไปมากกว่า 14,000 ตำแหน่ง ทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนและการเตรียมความพร้อมสำหรับยุคการขนส่งอัตโนมัติ (Autonomous) และหุ่นยนต์ ซึ่งต้องใช้การลงทุนด้าน AI และซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อย่างหนัก

ภาพจาก Unsplash

Salesforce

Marc Benioff ซีอีโอ ยืนยันในเดือนกันยายนว่า ได้ลดพนักงานฝ่ายสนับสนุนลูกค้าลง 4,000 ตำแหน่ง ด้วยความช่วยเหลือของ AI โดยเขาระบุว่า AI ทำงานในบริษัทไปแล้วกว่า 50%

IBM

Arvind Krishna ซีอีโอของ IBM เผยว่า AI Chatbot ได้เข้ามาทำงานแทนที่พนักงานฝ่ายบุคคล (HR) ไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม IBM ยังคงมีการจ้างงานเพิ่มในด้านที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์สูง เช่น วิศวกรรมซอฟต์แวร์ การขาย และการตลาด

CrowdStrike

บริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 5% หรือประมาณ 500 คน ในเดือนพฤษภาคม โดยระบุโดยตรงว่าเป็นผลมาจาก AI ซึ่งช่วยให้บริษัทพัฒนานวัตกรรมได้เร็วขึ้นและลดภาระงานส่วนหลัง (Back office)

Workday

แพลตฟอร์มด้าน HR เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ประกาศลดพนักงาน 8.5% (ประมาณ 1,750 ตำแหน่ง) ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อจัดลำดับความสำคัญใหม่และนำทรัพยากรไปทุ่มให้กับ AI

AI เป็นเหตุผลจริง หรือแค่ “แพะรับบาป”?

ในสภาวะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง ภาษีนำเข้าทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และบริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาวิธีลดต้นทุน AI จึงกลายเป็นทางออกระยะสั้นที่น่าดึงดูดใจ ผลการศึกษาจาก MIT ในเดือนพฤศจิกายนชี้ให้เห็นว่า AI สามารถทำงานแทนที่แรงงานในสหรัฐฯ ได้แล้วถึง 11.7% และช่วยประหยัดค่าจ้างได้มหาศาลถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในกลุ่มธุรกิจการเงิน สาธารณสุข และบริการวิชาชีพอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อว่า AI คือสาเหตุที่แท้จริง Fabian Stephany ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้าน AI และการทำงานจาก Oxford Internet Institute ให้ความเห็นกับ CNBC ว่า AI อาจเป็นเพียงข้ออ้าง

เขากล่าวว่า หลายบริษัทที่เติบโตดีในช่วงแพร่ระบาดได้ จ้างคนเกินความจำเป็น (Overhired) และการเลิกจ้างในช่วงนี้อาจเป็นเพียงการ ล้างไพ่ ในตลาดแรงงานเท่านั้น

“มันเป็นการไล่คนที่บริษัทไม่มีแผนรองรับในระยะยาวออก แทนที่จะยอมรับว่า ‘เราคำนวณพลาดเมื่อ 2-3 ปีก่อน’