"Optimus 2X" ขอลูกค้าไฮเทคให้แอลจีบ้าง

การทุ่มโปรโมตสมาร์ทโฟนรุ่น “Optimus 2X” ของแอลจีช่วงเวลา 3 เดือน ด้วยงบ 30 ล้านบาท กับเป้าหมายยอดขายเพียงแค่ 1 หมื่นเครื่อง หากมองชั้นเดียวน่าจะไม่คุ้ม แต่แอลจีขอมองข้ามไปอีกชั้นและได้คำตอบว่าคุ้ม เพราะนี่คือแผนทำให้เกิดผลต่อภาพรวมของแบรนด์ หรือ Brand Halo Effect เพื่อส่งผลต่อแบรนด์ให้แอลจีขายสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นได้มากขึ้น

แบรนด์ “แอลจี” ที่ลูกค้าทั่วไปรู้จักคือเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม Mass แอลจีคือราคาถูก ส่วนในกลุ่มไฮเอนด์คือดีไซน์สวย อย่างรุ่นที่เป็นที่จดจำคือช็อกโกแลต ส่วนกลุ่มที่นิยมความไฮเทคแอลจีไม่เคยอยู่ในสายตากลุ่มนี้มาก่อน

นี่คือจุดอ่อนที่แอลจีหวังว่าสมาร์ทโฟน Optimus 2X จะมาช่วยกำจัดออกไป

Optimus 2X สำหรับแอลจีจึงมีความหมายมาก โดย “สมศักดิ์ อธิศัยตระกูล” หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) บอกว่ามาช่วยแก้จุดอ่อนของแอลจี ให้คนรับรู้ว่าแอลจีมีจุดเด่นเทคโนโลยี และจะเป็นผู้เล่นรายหลักในตลาดสมาร์ทโฟนนับจากนี้ โดยเฉพาะกลุ่มระดับราคามากกว่า 2 หมื่นบาท ที่แอลจีไม่เคยได้ตลาดมาก่อน

หากเทียบกับไอโฟนแล้ว “สมศักดิ์” บอกว่าแอลจีก้าวข้ามจากไอโฟนด้วยเทคโนโลยีชิป Dual Core แม้อีกไม่นานแบรนด์อื่นๆ ก็ส่ง Dual Core ตามมา แต่แอลจีก็พร้อมรับมือด้วยเทคโนโลยีอีกขั้นคือจอ 3D

ด้วยงบ 30 ล้านบาทในช่วงเวลา 3 เดือนกับยอดขายที่หวังเพียง 1 หมื่นเครื่องสำหรับ Optimus 2X “สมศักดิ์” บอกว่าแผนนี้จะทำให้เกิด Brand Halo Effect กับแบรนด์แอลจีและส่งผลต่อยอดขายในรุ่นอื่นๆ ตามมา

ดูเหมือนแอลจีจะมั่นใจสูง เพราะจากความพยายามครั้งนี้ได้หวังส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในระดับเกิน 2 หมื่นบาทไว้ถึง 15% จากเดิมตลาดนี้ดีกรีของแอลจีอยู่ที่ 0% เท่านั้น

LG Optimus 2X
Official Launch 18 เมษายน 2554 ในไทย โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท นักข่าวสายไอทีประมาณ 20 คน บล็อกเกอร์ประมาณ 15 คน
Positioning สมาร์ทโฟนพรีเมียมเจาะกลุ่มที่ชอบเทคโนโลยี
Product Details จุดเด่นสเป็กเป็น First Mover ที่ใช้ชิป Dual Core ประมวลผลได้เร็ว เช่นโหลด และเข้าเว็บได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนปัจจุบัน 2 เท่า ราคา 20,900 บาท รันบนแอนดรอยด์ 2.2
Market Analysis ตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนที่ราคาเกิน 20,000 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบไอโฟน แบรนด์รองลงมาจึงต้องหาจุดเด่นใหม่เรื่องสเป็กและปัจจุบันพัฒนามาถึง Dual Core ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกและเพลินยิ่งขึ้น
Strategy งบตลาด 30 ล้านบาท สื่อออนไลน์ 10% และเน้นทีวีซี ช่วงไพรม์ไทม์ หวังยอดขาย 1 หมื่นเครื่อง และส่งผลต่อแบรนด์แอลจีให้คนรับรู้ว่าพร้อมบุกตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียม
Competitors คู่แข่งหลักที่ใช้ Dual Core คือซัมซุง Galaxy S II,เอชทีซี Shooter, โมโตโรล่า Atrix

5 อันดับแรกในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนของกลุ่มพรีเมียม
1. เทคโนโลยี 26.3%
2. ดีไซน์ 7.3%
3. แบรนด์ 4.8%
4. ราคา 4.0%
5. ความเด่นเฉพาะ 2.2%
6. เหตุผลอื่น ที่เหลือ
ที่มา : แอลจี

ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนเกิน 2 หมื่นบาท
ไอโฟน 30%
แบล็คเบอร์รี่ 30%
โนเกีย 15%
กลุ่มแอนดรอยด์ เช่น ซัมซุง เอชทีซี 25%
ที่มา : รวบรวมข้อมูลจากค่ายผู้ให้บริการมือถือ

Brand Halo Effect
– ในทางการตลาดคือแรงกระเพื่อมของการทำตลาดสินค้าตัวหนึ่งเพื่อส่งผลต่อสินค้าอื่นของแบรนด์ เช่นกรณีของไอพอดทัช ของแอปเปิล ที่ใช้งบตลาดสูงในปี 2005 จนช่วยดันยอดขายพีซีให้แอปเปิลในช่วงนั้น และอีกแบรนด์คือโมโตโรล่าปี 2005 ที่ทุ่มงบกับรุ่น RAZR ทำยอดขายเพียง 6.5 ล้านเครื่อง จากยอดรวมทุกรุ่น 38.7 ล้านเครื่อง ทำรายได้เพิ่มถึง 26%

– ในทางจิตวิทยาความรู้สึกของคน ยังพบว่าคนจะรู้สึกว่า คนที่หน้าตาดี จะเก่ง มีความสามารถ ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงด้วย
ที่มา www.brandingstrategyinsider.com