โออิชิปั้นแบรนด์ใหม่ OISHI BIZTORO (โออิชิ บิซโทโระ) วางจุดยืนเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบริการด่วน เน้นเมนูสั่งง่าย ทานสะดวก ราคาย่อมเยา ประเดิม 2 สาขา
ในยุคของ COVID-19 ทำให้หลายธุรกิจไปต่อไม่ไหว ต้องปิดกิจการกันมากมาย แต่ก็มีบางธุรกิจที่เดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีโอกาสในตลาด อย่างธุรกิจอาหารที่มีการปรับตัว เปิดโมเดลใหม่ๆ เพื่อรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค และบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
“โออิชิ” หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอาหารญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าเปิดแบรนด์ใหม่เสริมพอร์ตร้านอาหาร ล่าสุดได้ปั้นแบรนด์ OISHI BIZTORO เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบริการด่วน เน้นเมนูสั่งง่าย กินสะดวก โดยเมนูแบ่งออกกลุ่มหลักๆ เป็น 3 กลุ่ม 1. เมนูเส้น หรือราเมน 2. เมนูข้าวหน้าญี่ปุ่น หรือดงบุริ 3. เมนูอาหารว่าง และของทานเล่น
ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล อยุธยา และสาขาเซ็นทรัล ศรีราชา เบื้องต้นเน้นการเปิดสาขากับศูนย์การค้าที่มีโอกาส เช่น ศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการใหม่
ถ้าถามว่า OISHI BIZTORO มีความแตกต่างอย่างไรกับร้าน “โออิชิ ราเมน” และ “คาคาชิ” เนื่องจากมีเนูที่ใกล้เคียงกัน และราคาไม่ต่างกันมาก โดยทางโออิชิได้บอกว่า OISHI BIZTORO เน้นเมนูทานง่ายๆ เน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว ราคาคุ้มค่า
ยกตัวอย่าง ที่โออิชิ ราเมนจะมีเมนูพิเศษหลายเมนู แต่ที่ OISHI BIZTORO จะมีเมนูคลาสิก ราเมนอาจจะมีเพียงแค่เมนูที่ขึ้นชื่อเท่านั้น
ซึ่ง OISHI BIZTORO ก็จะมาเติมพอร์ตร้านอาหารในระดับแมส มีราคาไม่เกิน 500 บาท ปัจจุบันมี 3 แบรนด์ ได้แก่ ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน และคาคาชิ
โออิชิเองมีร้านอาหารในเครือที่ครอบคลุมเกือบทุกเซ็กเมนต์ ได้แก่ จำนวนสาขาของร้านอาหารญี่ปุ่น เครือโออิชิ สิ้นสุด ณ ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2565 (วันที่ 31 ธันวาคม 2564) ทั้งหมด 258 สาขา
ร้านอาหารระดับพรีเมียม (ราคา 1,000 บาทขึ้นไป)
- SAKAE (ซาคาเอะ) ร้านชาบู ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น จำนวน 1 สาขา
- HOU YUU (โฮว ยู) ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ/ซาชิมิหรือปลาดิบต่างๆ จำนวน 3 สาขา
- OISHI GRAND (โออิชิ แกรนด์) ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียม บุฟเฟต์ จำนวน 1 สาขา
ร้านอาหารระดับพรีเมียม แมส (ราคา 700 บาทขึ้นไป)
- OISHI EATERIUM (โออิชิ อีทเทอเรียม) ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ จำนวน 9 สาขา
- OISHI BUFFET (โออิชิ บุฟเฟต์) ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ จำนวน 8 สาขา
- NIKUYA By OISHI (นิกุยะ) ร้านปิ้งย่าง หรือยากินิกุตำรับโอซาก้าแท้ จำนวน 4 สาขา
ร้านอาหารระดับแมส (ราคาไม่เกิน 500 บาท)
- Shabushi By OISHI (ชาบูชิ) ร้านชาบู-ชาบู ซูชิ บนสายพาน จำนวน 160 สาขา
- OISHI RAMEN (โออิชิ ราเมน) ร้านราเมน จำนวน 53 สาขา
- KAKASHI By OISHI (คาคาชิ) ร้านดงบุริ หรือข้าวหน้าญี่ปุ่น จำนวน 17 สาขา
- OISHI BIZTORO (โออิชิ บิซโทโระ) ร้านอาหารญี่ปุ่น ราเมน และดงบุริ จำนวน 2 สาขา
ตลอดจน Grab & Go ที่มีโมเดลร้านของ “โออิชิ ทู โก” (OISHI to go) เข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกของอาหารที่รวดเร็ว และสะดวกสบาย และยังมี “โออิชิ ฟู้ด ทรัค” (OISHI Food Truck) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
ล่าสุด บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2564-2565 (1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2564) เติบโตทั้งรายได้และผลกำไร
- รายได้รวม 2,982 ล้านบาท เติบ 11.8%
- แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,694 ล้านบาท เติบโต 14.5%
- รายได้จากธุรกิจอาหาร 1,288 ล้านบาท เติบโต 8.5%
- กำไรสุทธิ 389 ล้านบาท เติบโต 73.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน