นักวิเคราะห์มองสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ใกล้ถึงทางตัน หลังบุกไม่คืบ กระสุนหมด และโดนคว่ำบาตร

การรุกรานยูเครนของรัสเซียใกล้จะเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ซึ่งกองกำลังของ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ใช้กำลังและการทำลายล้างอย่างโหดร้าย ส่งผลให้ผู้คนต้องหลบหนีและทำให้คนหลายล้านไร้ที่อยู่อาศัย แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสงครามกำลังจะถึงทางตัน และรัสเซียจะเป็นผู้พ่ายแพ้

เนื่องจากเศรษฐกิจของรัสเซียขณะนี้กำลังสั่นคลอน เพราะ การคว่ำบาตรของนานาประเทศและต้นทุนของสงคราม ในขณะที่พื้นที่สำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ในยูเครนยังไม่ถูกยึดครอง โดยผู้เฝ้าสังเกตการณ์ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียเริ่มมีสัญญาณของความสิ้นหวังเพิ่มมากขึ้น

“ฉันไม่คิดว่ารัสเซียจะชนะ เพราะพวกเขาไม่สามารถยึดเมืองใหญ่ได้ เริ่มมีปัญหากับจำนวนกระสุน และเริ่มแสดงความสิ้นหวังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือจากจีน หรือขู่ว่าจะโจมตีอาวุธและเสบียงของ NATO ที่ส่งให้ยูเครน รวมถึงการใช้อาวุธชีวภาพหรือนิวเคลียร์ ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสิ้นหวัง” เคิร์ต โวลเกอร์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำ NATO กล่าว

เคิร์ต โวลเกอร์ กล่าวว่า ความสิ้นหวังของรัสเซียในการคว้าชนะอย่างรวดเร็ว ทำให้กองทัพรัสเซียใช้วิธีการ ป่าเถื่อน อาทิ การกำหนดเป้าหมายพลเรือนโดยตรง การโจมตีเมืองเพื่อพยายามสร้างความกลัวและความอ่อนล้าให้กับประชาชน

ที่ผ่านมา รัสเซียล้มเหลวในการยึดเมืองหลวงของเคียฟ และปลด ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ด้วยขบวนรถทหารขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าหาเมืองในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ยังคงกระจัดกระจายอยู่ในเขตชานเมือง เนื่องจากกองกำลังของยูเครนสามารถต้านทานความพยายามของรัสเซียที่จะยึดเมือง คาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยความจริงแล้ว ในช่วงหลายสัปดาห์หลังจากการรุกราน มีเพียงเมือง เคอร์ซอน ที่ตกอยู่ภายใต้กองกำลังของรัสเซีย

มิคัล บาราโนฟสกี้ ผู้อำนวยการสำนักงานวอร์ซอของกองทุนมาร์แชลของเยอรมัน กล่าวว่า “สงครามเกือบจะถึงทางตันแล้ว”

“รัสเซียหวังว่าจะได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วจากการเร่งบุกยึดเมืองเคียฟ แต่พวกเขาล้มเหลวในการทำยุทธวิธีนั้น ทำให้กลยุทธ์จึงเปลี่ยนเป็นสงครามที่ยืดเยื้อและเกิดการทำลายล้างจริง ๆ”

Getty Images

เขากล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียพึ่งพาพลังงานทางอากาศมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนมากขึ้น เช่น โรงละครในเมืองมาริอูโปล เมืองท่าทางตอนใต้ที่ถูกปิดล้อม ซึ่งพลเรือนพักพิงอยู่ ป้ายขนาดใหญ่ถูกทาสีบนพื้นด้านนอกโรงละครเพื่อเตือนว่าเด็ก ๆ อยู่ในอาคารและยังคงถูกตี เครมลินได้ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้มีเป้าหมายเป็นพลเรือน แม้ว่าจะมีหลักฐานที่ตรงกันข้ามก็ตาม

โดยกองกำลังของรัสเซียอ้างว่าได้ทำการโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง อย่างไรก็ตาม มีการเผยแพร่ถ่ายภาพและหลักฐานทางวิดีโอ ตลอดจนการประเมินอย่างเป็นทางการจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนด้วยโดรนไร้คนขับ

Oleksiy Goncharenko สมาชิกรัฐสภายูเครน กล่าวว่า มีประชาชนมากกว่า 100,000 คนเข้าร่วมกองกำลังป้องกันดินแดนของยูเครน ซึ่งเป็นกองกำลังพลเรือน โดยเขาเรียกร้องให้เพิ่มการคว่ำบาตร เพิ่มอาวุธ และการสนับสนุนทางอากาศมากขึ้นเพื่อช่วยเอาชนะรัสเซีย

Source