โลกเสมือนแต่เสี่ยงจริง! นักวิเคราะห์ชี้ ‘Metaverse’ จะมาพร้อมภัยคุกคามไซเบอร์ใหม่ ๆ

Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft คาดการณ์ว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า การประชุมแบบเวอร์ชวลจะย้ายไปที่ เมตาเวิร์ส (Metaverse) แต่ลองนึกภาพการพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงลับมูลค่าหลายล้านดอลลาร์กับเจ้านายผ่านอวตาร์ บทสนทนาจบลงและคุณทั้งคู่ก็จากไป แต่เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้งและนำบทสนทนาก่อนหน้านี้ขึ้นมาคุย แต่เจ้านายของคุณจำข้อตกลงนี้ไม่ได้เลย ซึ่งนี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการป้องกัน

แม้ Metaverse ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ เช่น Meta หรือ Facebook เดิมและ Ralph Lauren ต่างเร่งรีบเร่งเข้ามาปั้นให้เกิดขึ้นจริง แต่กลับไม่มีการพูดถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ใน Metaverse เลย

Prabhu Ram หัวหน้ากลุ่มข่าวกรองอุตสาหกรรมที่ CyberMedia Research กล่าวว่า ใน Metaverse นั้นมันไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด โดยผู้ใช้อาจตกเป็นเหยื่อของการแฮกอวาตาร์ หรือการใช้ Deepfakes ปลอมตัว ขณะที่อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตในโลกแห่งความเป็นจริงเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว

ในขณะที่ธุรกิจต่างเร่งรีบที่จะปักธงไว้ใน Metaverse แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อาจตระหนักถึงอันตรายทั้งหมดของโลกใหม่นี้ Check Point บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์รายงานว่า ในปี 2564 มีการโจมตีบนเครือข่ายองค์กรธุรกิจเพิ่มขึ้นราว 50%

“เนื่องจากโครงร่างและศักยภาพของ Metaverse ยังไม่ได้รับการตระหนักอย่างเต็มที่ ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยใน Metaverse นั้นยังคงถูกจำกัดอยู่แค่ในบริษัทที่เข้าใจในเทคโนโลยีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น” Ram กล่าว

JPMorgan ออกสมุดปกขาวในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งระบุตัวตนผู้ใช้และการป้องกันความเป็นส่วนตัวเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการโต้ตอบและการทำธุรกรรมใน Metaverse ขณะที่ Gary Gardiner ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมความปลอดภัยสำหรับเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นที่ Check Point Software Technologies เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว พร้อมระบุว่า การรักษาความปลอดภัยใน Metaverse ต้องใช้ความคิดแบบเดียวกันการรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต โดยโปรโตคอลความปลอดภัยควรเป็นแบบโต้ตอบกับผู้ใช้มากที่สุด

Photo : Shutterstock

นอกจากนี้ หลายคนกำลังมองหา บล็อกเชนเพื่อระบุตัวผู้ใช้ หรือ ใช้โทเคนที่องค์กรสามารถกำหนดได้วมไปถึง ระบบ ไบโอเมตริกซ์ในชุดหูฟัง ที่คุณสวมอยู่ เพื่อเพิ่มระดับของความปลอดภัย และทำให้คู่สนทนารู้ว่าอวตาร์ที่คุยด้วยเป็นคนคนนั้นจริง ๆ นอกจากนี้ มีคำแนะนำว่าให้ขึ้นสัญลักษณ์ เครื่องหมายตกใจ เหนือหัวของอวตาร์เพื่อส่งสัญญาณว่าบุคคลนั้นไม่น่าไว้วางใจ

อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจที่จะดำเนินการอย่างปลอดภัยใน Metaverse หัวใจสำคัญไม่ใช่แค่มาตรการป้องกันที่ดี แต่การฝึกอบรมพนักงานให้ดีเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะหากการโจมตีมาถึง Metaverse ผู้ใช้ที่มีการฝึกอบรมจะเข้าใจถึงสิ่งที่น่าสงสัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ Metaverse ควรจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้โปรโตคอลความปลอดภัยสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“จุดอ่อนที่สุดในองค์กรจากมุมมองของความปลอดภัยทางไซเบอร์คือผู้ใช้ และรากฐานของ Metaverse จะต้องทำให้ดี เพราะหากรากฐานอ่อนแอ ผู้คนจะสูญเสียความมั่นใจในแพลตฟอร์ม และจะหยุดใช้มัน” Gardiner กล่าว

Source