‘Apple’ เตรียมลดกำลังผลิต ‘iPhone SE’ 20% เนื่องจากความต้องการลดลงเพราะ ‘สงคราม’

(Photo by Ming Yeung/Getty Images)
Apple วางแผนที่จะผลิต iPhone SE น้อยลงประมาณ 20% ในไตรมาสหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่า ‘สงครามยูเครน’ และ ‘อัตราเงินเฟ้อ’ ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค

Apple เปิดตัว iPhone SE เป็นโทรศัพท์ราคาประหยัดเครื่องแรกที่รองรับ 5G เมื่อไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อน แต่ตอนนี้กำลังบอกซัพพลายเออร์หลายรายว่า จะลดกำลังการผลิตลงประมาณ 2 ล้านถึง 3 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้ โดยอ้างถึงความต้องการที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่ใช่แค่ iPhone SE แต่ Apple ยังขอให้ซัพพลายเออร์ผลิต iPhone 13 ทุกรุ่นน้อยกว่าที่วางแผนไว้ 2-3 ล้านเครื่องด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ความต้องการปรับตามฤดูกาล

นอกจากนี้ หูฟัง AirPods ก็มียอดขายลดลงกว่า 10 ล้านชิ้นในปี 2022 เนื่องจากบริษัทคาดการณ์ว่าความต้องการไม่ค่อยดีนักและต้องการลดระดับสต็อกสินค้าคงเหลือ โดยจากข้อมูลการวิจัยของ Counterpoint Research เปิดเผยว่า Apple ได้จัดส่ง AirPods ประมาณ 76.8 ล้านเครื่องในปี 2021 และคาดว่าการจัดส่งโดยรวมในปี 2022 อาจมีแนวโน้มลดลง

การเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ตอกย้ำถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน รัฐบาลจำนวนมากตั้งแต่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปไปจนถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ส่งผลให้ซัพพลายเชนได้รับผลกระทบ รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่กำลังจะเพิ่มค่าครองชีพของผู้คน ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนชิปเป็นเวลานานหลายปี

ทั้งนี้ Apple หยุดการขายและการผลิตในรัสเซียไม่นานหลังจากเกิดการระบาดของสงครามยูเครน โดยข้อมูลของ IDC เปิดเผยว่า คูเปอร์ติโน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ในรัสเซีย มียอดขาย iPhone ประมาณ 5 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16% ในปีที่แล้ว

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทจะหันมาลดกำลังการผลิตในไตรมาสเดือนมิถุนายน เพราะสงครามส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในตลาดยุโรป เป็นที่เข้าใจได้ว่าบริโภคจะประหยัดเงิน” ผู้บริหารของซัพพลายเออร์ของ Apple กล่าว

Photo : Shutterstock

ความเคลื่อนไหวของ Apple อาจทำให้แบรนด์สินค้าไอทีรายอื่น ๆ เริ่มเห็นผลกระทบ และปรับลดกำลังผลิต Brady Wang นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีของ Counterpoint Research กล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมมีสินค้าคงคลังอยู่ในระดับสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล และจะได้รับการแก้ไขในที่สุด

“เราเห็นความต้องการสมาร์ทโฟนในจีนที่ลดลงค่อนข้างมาก นอกจากนี้ สงครามรัสเซีย-ยูเครนน่าจะส่งผลกระทบไปทั่วตลาดยุโรปและความต้องการของผู้บริโภค โดยตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2022 อาจะเติบโตได้เพียง 5%”

โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกสำหรับปี 2022 เนื่องจากความวุ่นวายในยูเครน โดยคากว่า GDP โลกจะเติบโต 4.4% ในปีนี้ ประเทศจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5.5% ในน้อยสุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

Source