สร้างเทรนด์จอ 4 นิ้ว รสเด็ดสมาร์ทโฟนแดนกิมจิ

จุดร่วมที่ซัมซุงและแอลจีใช้เป็นจุดแข็งในการต่อสู้ตลาดสมาร์ทโฟนที่เหมือนกันเวลานี้คือ “จอ 4 นิ้ว แจ่มชัด และ Dual Core” ตามเทรนด์ของโลก แม้จะเป็นการชนกันระหว่างเพื่อนร่วมชาติกิมจิเหมือนกัน แต่ก็กำลังช่วยกันเปลี่ยนเกมตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ไอโฟนเป็นผู้คุมเกมอยู่คนเดียว

ซัมซุงออกตัวตั้งแต่ต้นปี 2553 ด้วยการสร้างแบรนด์ Galaxy โดยเริ่มจาก Galaxy S สเป็กสูงสุดในด้านจอเวลานั้นด้วยราคา 21,400 บาท เคลียร์ขอบจนได้จอขนาด 4 นิ้ว ปลายปี 2553 แอลจีเปิดตัวตระกูล Optimus เริ่มตั้งแต่ราคากลางๆ เกือบหมื่นอย่าง Optimus One แต่ตอนนั้นตลาดยังเงียบสำหรับแอลจี เพราะเอชทีซีเริ่มลงมาในกลุ่มนี้

ขณะที่ซัมซุงกำลังนับยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกวันของ Galaxy ที่สินค้าออกมาอย่างต่อเนื่องทุกเซ็กเมนต์ ด้วยุจุดแข็งเรื่องจอ ถึงขั้นถูกแนะนำต่อๆ กันว่าถ้าจอสดสวยก็ต้องซัมซุงจนสามารถสร้างแบรนด์ต่อยอดจนแบรนด์ Galaxy เริ่มดูดี ทำให้ซัมซุงทำยอดขายได้ส่วนแบ่งในแง่จำนวนเครื่องกว่า 30% เบียดโนเกียจนกระเด็น ตลาดนี้ใครถอยจากไอโฟนจึงมักจะถามหา Galaxy S ขณะที่ไอโฟนยังขอบหนา จออยู่แค่ขนาด 3.5 นิ้ว

เดือนเมษายน 2554 เกมพลิกอีกครั้งเมื่อแอลจีถึงจุดที่ควรสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ขอเป็นสมาร์ทโฟนที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี จึงทุ่มงบเปิดตัวถึง 30 ล้านบาทสำหรับ Optimus 2X เป็น First Mover ที่ใช้ชิป Dual Core รันบนแอนดรอย์ด 2.2 ค่าตัว 20,900 บาท แม้จะหวังยอดขายรุ่นนี้ไม่สูงนัก แต่แอลจีก็มั่นใจว่าภาพลักษณ์ความเป็นเทคโนโลยีนี้จะเป็นที่จดจำ เพื่อต่อยอดให้ Optimus รุ่นน้องที่กำลังตามมา

เดือนต่อมาซัมซุง เปิดตัว Galaxy S2 เป็น Dual Core แต่แอนดรอยด์ 2.3 และหน้าจอสวย 4.3 นิ้ว ราคาเบากว่าที่ 18,900 บาท

ทั้งแอลจีและซัมซุงเหมือนกันที่นำเทคโนโลยีจากธุรกิจจอทีวีแอลซีดีมาใช้ได้อย่างชาญฉลาด และที่เดินตามกันชนิดเป็นเงาคือจอขนาด 4 นิ้ว และสเป็กสูงอย่าง Dual Core ส่วนความต่างคือการเลือกเล่นในเซ็กเมนต์ และเวลาที่ใช่

Galaxy เข้าหาตลาดระดับบนในช่วงเริ่มต้นด้วยคุณภาพจอที่ไอโฟนด้อยกว่า เพื่อส่งต่อมายังระดับกลาง และในจังหวะที่สเป๊กของไอโฟนยังนิ่ง Optimus 2x ก็ขอเล่าเรื่องสเป็กสูงอย่าง Dual Core เป็นคนแรก และค่อยตามด้วยระดับกลางเพื่อชนกับ Galaxy ด้วย Optimus Black เน้นคุณภาพจอแจ่มขาวเป็นขาว 4 นิ้ว และความบางด้วยราคา 13,900 บาท และกำลังจะตามมาด้วยจอ 3 มิติ

อัดแน่นอย่างน้อยเดือนละรุ่น ทุกเซ็กเมนต์ ทำให้ “สมศักดิ์ อธิศัยตระกูล” หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงกับบอกว่า ปีนี้ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนจะเพิ่มมากกว่าเท่าตัวจาก 6% เป็น 15% โดยเฉพาะตลาดระดับหมื่นต้นๆ โดยเฉพาะจุดแข็งเรื่องขนาดและคุณภาพจอ ส่วนที่ผ่านมาซัมซุงนำไปก่อนเพราะแอลจียังไม่เข้ามา (เท่านั้นเอง)

สีสันของตลาดสมาร์ทโฟนเวลานี้จึงเข้มข้นด้วยรสแรงของกิมจิ จนแบรนด์สมาร์ทโฟนสัญชาติอื่นหมองและเงียบเฉาไปตามๆ กัน

เส้นทางบุกตลาดสมาร์ทโฟน
แบรนด์ เกมที่ผ่านมา เกมปัจจุบัน
ซัมซุง ต้นปี 2553 บุกตลาดบนด้วย Galaxy S ที่มีจุดแข็งเรื่องจอ 4 นิ้ว คมชัด บุกตลาด Mainstreamยังคงขายได้ด้วยจอ และเริ่มส่งสเป็กสูง Dual Core จอ 4.3 นิ้ว
แอลจี ต้นปี 2554 ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มเข้ากลุ่ม Mainstream จึงส่ง Optimus One ลงมาแต่แบรนด์ยังเงียบ นำพลังของรุ่น Dual Core มาส่งต่อถึงรุ่นอื่นและเริ่ม Mainstream อีกครั้งด้วยคุณภาพและขนาดจอ 4 นิ้ว