คาสิโอ เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ 3 รุ่นจาก G-SHOCK ตระกูลนาฬิกาต้านทานแรงกระแทกที่มีขนาดเพรียวบางเพื่อความสะดวกสบายต่อการสวมใส่ในทุกวัน โดยนาฬิการุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ นาฬิกาโลหะรุ่น MTG-B3000 และรุ่น GST-B500 นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์จากซีรี่ส์ 2100 รุ่น GA-B2100
MTG-B3000 มาพร้อมนวัตกรรมโมดูลขนาดเพรียวบาง และโครงสร้างต้านทานแรงกระแทกในรูปแบบที่ทนทานและกะทัดรัดเป็นการใช้คุณสมบัติของโลหะและเรซินให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อความคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับซีรี่ส์ MT-G
MTG-B3000 จับคู่นวัตกรรมโมดูลขนาดเพรียวบางเข้ากับโครงสร้างต้านทานแรงกระแทก รวมไปถึงเทคโนโลยีการติดตั้งที่มีความหนาแน่นสูง และโครงสร้าง Dual Core Guard ที่มีความก้าวล้ำกว่าที่เคยเพื่อให้ได้นาฬิกาที่ทนทานต่อแรงกระแทกที่เพรียวบางกว่ารุ่นก่อน (MTG-B1000) ถึง 2 มม. โดยโครงสร้างป้องกันที่พัฒนาขึ้นใหม่สามารถปกป้องโมดูลด้วยตัววัสดุเรซินเสริมด้วยคาร์บอน และห่อหุ้มด้านนอกด้วยส่วนประกอบที่เป็นโลหะ เพื่อคงรูปลักษณ์และพื้นผิวแบบโลหะเอาไว้ ในขณะที่ตัวเรือนมีน้ำหนักเบาลง นวัตกรรมดีไซน์และเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้นาฬิกาโลหะรุ่นนี้มีความหนาเพียง 12.1 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่สวมใส่ได้สบายมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของฟังก์ชัน MTG-B3000 มาพร้อมกับระบบปรับเทียบเวลาจากคลื่นวิทยุ และฟังก์ชันการจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเข้ากับแอป CASIO WATCHES เพื่อการปรับตั้งเวลาให้ถูกต้องโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์และไฟ LED ที่ให้ความสว่างสูงเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
ต่อมาอีกหนึ่งรุ่นที่พลาดไม่ได้กับ GST-B500 นาฬิกาโลหะจากตระกูล G-STEEL ที่มีขนาดเพรียวบางและน้ำหนักเบาที่สุด โดยกรอบตัวเรือนถูกออกแบบมาในสไตล์เรียบง่าย พร้อมปรับโฉมใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัดเพิ่มผิวสัมผัสแบบโลหะมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่ง มาพร้อมความเพรียวบางของตัวเรือน 12.8 มม. และน้ำหนักเพียง 143 กรัม
นาฬิกา G-STEEL รุ่นใหม่มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน (Carbon Core Guard) ที่แข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังเป็นโครงสร้างที่ต้านทานแรงกระแทกอันเป็นสัญลักษณ์ของ G-SHOCK ปกป้องโมดูลด้วยกรอบตัวเรือนวัสดุเรซินเสริมด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความแข็งแรง น้ำหนักเบา และมีความทนทานต่อการใช้งาน โดยรุ่น GST-B500 มาพร้อมฟังก์ชันเรืองแสง Super Illuminator (ไฟ LED แบบค่าความสว่างสูง) เพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้ดีในที่มืด รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น นาฬิการะบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ เพื่อความแม่นยำและความน่าเชื่อถือในการบอกเวลามากยิ่งขึ้น
โดย G-STEEL รุ่นใหม่นี้ประกอบด้วยรุ่นโลหะสีเงิน 3 เรือน พร้อมหน้าปัดดีไซน์ที่แตกต่างกัน และอีก 2 เรือนมีการเคลือบไอพีสีดำและไอพีสีทอง เพื่อให้สามารถเข้าได้กับรสนิยมและสไตล์ที่หลากหลายของทุกเพศทุกวัย
สุดท้ายนี้ นาฬิการุ่น GA-B2100 5 เรือน โฉมใหม่ มาในรูปแบบโมดูลเพรียวบาง พร้อมส่วนประกอบตัวเรือนที่ได้รับการพัฒนาที่ดีที่สุด มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน ถือได้ว่าเป็นรุ่นแรกของตระกูล 2100 นาฬิกาตัวเรือนแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 รุ่นพื้นฐาน GA-2100 เป็นการพัฒนามาจาก G-SHOCK รุ่นแรกอย่างรุ่น DW-5000C ซึ่งดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ของรุ่นนี้ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกโดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่
นอกจากนี้นาฬิกาต้านทานแรงกระแทก GA-B2100 รุ่นใหม่ มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อบลูทูธและระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการจับคู่สมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธจะช่วยให้สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันระบบพลังงานแสงอาทิตย์จะแปลงแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์และแหล่งพลังงานอื่นๆ ให้เป็นพลังงานสำหรับการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้สวมใส่จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นประจำ ช่วยยกระดับความสะดวกสบายที่เหนือกว่าไปอีกขั้น
GA-B2100 รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ซึ่งเป็นสีคลาสสิกที่ใช้ครั้งแรกในตระกูล G-SHOCK 5600 ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว และสีน้ำเงิน ในรุ่น DW-5600C-9BVDR รุ่น DW-5600B-3VDR และรุ่น DW-5600B-2VDR นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสีดำทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ รุ่นสีดำและสีเทาโทนสีเดียวกันกับรุ่นดั้งเดิม DW-5600C-1VDR จากตระกูล 5600 และรุ่นสีดำล้วนให้เลือกสรรตามความชอบ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิการุ่นใหม่ในดีไซน์แข็งแกร่งและเพรียวบาง ดูได้ที่เว็บไซต์
www.casio.com/th/watches/ หรือ Facebook: Casio Watches Thailand