ครัวกากๆ …เชฟหมี คลิกเพลย์ทะลุล้านแล้ว (จ้า)

“ผมเพิ่งตื่น เพื่อนแ…่งหิวข้าว …นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ฮะ มนุษย์แ…กได้ทุกที่ฮะ” และอีกสารพัดที่ปล่อยออกมาในคลิปวิดีโอสอนทำอาหารยาว 8.49 นาที ของรายการ ”ครัวกากๆ โดยเชฟหมี” ตอนที่ 1 ที่เป็นจุดดึงดูดแรกให้คนหยุดดู บางคนดูไม่จบ แต่บางคนก็คลิกแชร์อย่างรวดเร็ว จนนับตั้งแต่ปล่อยออกมาในยูทูบวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ถึงวันที่ 1 มิถุนายน มีผู้ชมดูไปแล้ว 1,048,861 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 9,535.1 คน ชั่วโมงละ 397 คน มีคนชอบ 7,725 คน ไม่ชอบ 82 คน มีคอมเมนต์ 2,498 คน

รายการนี้มีความต่างจากคอนเทนต์ที่เคยมีมาก่อนตรงที่มีความเสียดสีประชดประชัน กากๆ ดิบๆ ใกล้ชิดกับชีวิตมนุษย์ทั่วๆ ไป จริงใจคุยกันเหมือนเพื่อนคุยกัน คือกุญแจแห่งความสำเร็จในการกวาดผู้ชม ท่ามกลางกระแสของคลิปวิดีโอที่เน้นหล่อ สวย ตลก แปลก ลึกลับ เหลือเชื่อที่มีอยู่อย่างดาษดื่น ซึ่ง ”เชฟหมี” มีมุมมองของความสำเร็จเพิ่มเติมว่าเป็นรายการตอบโจทย์อารมณ์ขัน ที่สังคมไม่ค่อยมี เสียดสีขนบการทำรายการโชว์ทำอาหารที่ทุกอย่างจัดตั้งดูดีในสื่อหลัก และที่สำคัญแม้จะกากๆ แต่ก็มีสาระความรู้ ด้วยพื้นฐานของเชฟหมีที่ครอบครัวเป็นร้านอาหารในจังหวัดระนอง

ทั้งหมดนี้จึงถูกจริตผู้ชม ที่”เชฟหมี” สังเกตเห็นพบว่าส่วนใหญ่เป็นชั้นกลาง วัยรุ่นหนุ่มสาว ประมาณมัธยมถึงมหาวิทยาลัยรวมกันเกินครึ่ง

ความดังของเชฟหมีและเพื่อนอีก 2 คนเวลานี้จึงไม่ต้องบรรยายถึง เพราะออกสื่อมาแล้วหลายรายการทั้งสื่อในเว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ ทีวีอย่างเนชั่นแชนอล หรือแม้กระทั่งรายการ ”สุริวิภา” กับ 2 พิธีกร ”พลอย” แม้ภาพพิธีกรของทีมของครัวกากๆ จะดูไม่เข้ากัน แต่ก็ยิ่งทำให้ครัวกากๆ ยิ่งดัง ตอน 2-3-4-5 คนก็ยังดูกันกระหน่ำ รอคอยตอน 6 กันอย่างใจจดใจจ่อ

ความดังกลายเป็นที่ต้องการของแบรนด์ไปโดยปริยาย เพราะถ่ายทำทีวีซีอีกอย่างน้อย 2 ตัว ที่ออนแอร์แล้วคือซอสปรุงรสภูเขาทอง ที่มีเชฟหมี กับน้าช้างร่วมกันเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีขนมขบเคี้ยวที่รออยู่ และทีมของครัวกากๆ ก็กำลังทำไวรัลวิดีโอให้อีกแบรนด์หนึ่งเป็นการทำเพื่อประสบการณ์สนุก ไม่คิดถึงเรื่องความดัง หรืออยากรวยจากปรากฏการณ์นี้ เป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่ ยึดแนวเพื่อนสนุกเราสนุกด้วยมากกว่า

ไม่เพียงเท่านั้น ”เชฟหมี” ยังบอกว่ามีคนติดต่อมาถึงขั้นให้ทำรายการบนเคเบิลทีวี และฟรีทีวี มีสินค้า 3-4 แบรนด์ขอ Tie-in ในคลิป แน่นอนว่าต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอบ้าง ทาบทามไปเป็นพิธีกรบ้าง แต่เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เชฟหมีและเพื่อนต้องการ เพราะทุกคนมีงานประจำ เชฟหมีและน้าช้างรักการเป็นอาจารย์ และต้าคือผู้กำกับหนังโฆษณา และที่สำคัญความดังที่เกิดขึ้นกับครัวกากๆ มาจากความสนุกอยากทำ ถ้าต้องไปทำโดยไม่สนุกก็เลือกที่จะไม่ทำ และแนวโน้มตอนนี้เริ่มไม่สนุกแล้วสำหรับพวกเขา ซึ่งเชฟหมีชัดเจนในจุดยืน แม้เขาจะเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญา แต่ก็ขอทำงานนี้อย่างศิลปิน เบื่อก็เลิก มีเวลาก็ทำ

หลายคนมองเขาถึงขั้นเป็นไอดอล ตามมา Like ในเฟซบุ๊กแฟนเพจถึงกว่า 1 แสนคน และเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกเต็มโควต้า 5 พันคน ซึ่งวิธีการพูดคุยและบริหารแฟนเพจของเขานั้นสุภาพมากกว่าในคลิปรายการมากมาย มีสาระ วิธีการคือบอกเล่าถึงความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ไม่บ่อย นานๆ มาที และเรตติ้งพุ่งกระฉูดที่น่าสนใจถึงขั้นที่ว่าการเปิดเทอมแรกในปี 2554 นี้มีนักศึกษาลงเรียนวิชาของเขาในฐานะอาจารย์ ”คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง” อาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาศิลปากร มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนผลครั้งนี้ไม่ต่างจากเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน คืออย่าง ”น้าช้าง” หรืออาจารย์ศาสวัต บุญศรี ที่ถูกเติมเข้ามาในคลิปสอนช้างทำอาหาร เขาเป็นอาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยในซอสปรุงรสภูเขาทอง อีก ”ต้า” ภาณุวัฒน์ อยู่ชัง ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา บริษัททศกัณฑ์ฟิล์ม จำกัด เบื้องหลังที่เชฟหมีคิดถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยคลิปตามมา คนตัดต่อ รวมไปถึงการช่วยคำนวนค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้กับเพื่อนทั้งสองในการไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้ว

How to เล่าเรื่องกากๆ แต่โดน
“ต้า” เล่าว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติของผู้ท่องโลกอินเทอร์เน็ตนั้นมีความอดทนต่ำ จะไม่ทนดูอะไรนานๆ คอนเทนต์ที่เสนอขึ้นมาจึงไม่ยาวเกิน 10-15 นาที และนำเสนอแบบไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย

สิ่งที่นำเสนอต้องมาจากความเป็นธรรมชาติของตัวเองทุกคนมีความสนุก คลิปแรกเริ่มจากถ่ายทำแล้วตัดต่อส่งขึ้นเฟซบุ๊กของเชฟหมี ที่มีเพื่อนอยู่ประมาณ 600-700 คน ปรากฏว่ามีคนดูแล้วชอบ นำไปโพสต์ต่อในพันทิพ จนกลายเป็นการเข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้น กลายเป็นไวรัล บอกต่อ ส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว จำนวนขึ้นเป็นหลักแสนใน 1 สัปดาห์

ตอนแรกคนดูถล่มทลาย ทำให้เกิดความคาดหวังในตอนที่ 2 และตอนอื่นๆ ตามมาก็ต้องคิดมากขึ้น วางแผนมากขึ้น แต่ต้องอยู่รูปแบบที่วางคอนเซ็ปต์ไว้คือความเป็นกากๆ คิดสร้างสรรค์แบบเหนือความคาดหมาย และที่สำคัญคือจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการปล่อย ควรนานสักระยะหนึ่งซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่านานเท่าไหร่ เฉลี่ยควรจะประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่ต้องให้ความรู้สึกของผู้ชมถึงจุดอยากติดตาม ขณะเดียวกันต้องระวังว่าผู้ชมรอนานมากเกินไปก็อาจเกิดความรู้สึกไม่อยากดูก็เป็นได้

กระแสตอบดีที่เกิดขึ้นนั้น ”ต้า” สรุปได้ว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีข้อจำกัดน้อยกว่าสื่อกระแสหลัก คนนำเสนอเนื้อหามีอิสระมากกว่าในการให้ความคิดสร้างสรรค์พาไป ขณะเดียวกันคนเสพสื่อประเภทนี้ก็มีอิสระที่จะเลือกว่าเขาจะดูอะไร เสพอะไร กรอบระเบียบมาจากคนดู เขากรองเองว่าจะดูหรือไม่ดูอะไร ดังนั้นเนื้อหาที่เกิดขึ้นอย่างหลากหลายในปัจจุบันจึงมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้คนได้ดูในสิ่งที่ไม่คยมีการนำเสนอมาก่อน ซึ่งตรงกับความต้องการของคนดูนั่นเอง

ครัวกากๆ โดยเชฟหมี
ที่มาชื่อ ครัวกากๆ มาจากอาหารเหลือๆ (กากเดน) พ้องเสียงกัน ก๊ากๆ
ทีมงาน เพื่อนกัน 3 คนวัย 29 ปีที่มีดีกรีศิลปศาสตรบัณฑิต (การสื่อสารมวลชน)มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนิท สนุก พบกันประจำ
ผลงาน
 
 
 
 
• ครัวกากๆ โดยเชฟหมี 5 ตอน ทำในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา และยังไม่มีแผนทำตอนที่ 6 เพราะตอนนี้เปิดเทอมทั้งอาจารย์คมกฤชและอาจารย์ศาสวัตติดภารกิจสอนหนังสือ
• เว็บไซต์ gaggag.tv ยังไม่มีเนื้อหาอะไรมากนัก เพราะเพิ่งเปิดไม่นาน
• เฟซบุ๊กแฟนเฟจ ครัวกากๆ โดยเชฟหมี 104,319 Likes
• เฟซบุ๊กส่วนตัว “คุงคูพี่หมีนะจ๊ะ” มีเพื่อน 4,949 คน รับเพิ่มไม่ได้แล้ว
• พรีเซ็นเตอร์สินค้า 2 แบรนด์ (ณ วันที่ 1 มิถุนายนซอสภูเขาทองและอีกแบรนด์ยังไม่ออนแอร์) และทำไวรัลมาร์เก็ตติ้งให้อีก 1 แบรนด์ยังไม่เปิดเผยเช่นกัน