ผู้หญิงที่ชื่อ ปอนด์ ยาค่อบเซ่น วัย 30 ปี อาจไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับคาแร็กเตอร์ที่เธอและทีมงานคิดขึ้นมาผ่าน ใจดีทีวี (Jaidee TV) Internet TV ที่แจ้งเกิดจาก Youtube ด้วยกระแสปากต่อปากของคนซี่งถูกจริตกับความขำที่บางครั้งแฝงมาด้วยข้อคิดสะท้อนสังคม ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของคุณพลอย สาวไทยที่พูดไทยคำอังกฤษคำ คุกกี้ สาวแอ๊บผู้วิ่งตามทุกกระแสอย่างไม่รู้เหนื่อย คุณยายทองดีที่ขี้บ่นเป็นหมีกินผึ้ง จีแฮนางเอกเกาหลี เมนี่ ตัวร้ายตามขนบนางอิจฉาของละครน้ำเน่าไทย และอื่นๆ
ร้อยแปดคาแร็กเตอร์ที่วาดลวดลายอยู่ในใจดีทีวี ทำให้ใจดีทีวีกลายเป็นทีวี “ชะนีพันหน้า” (สโลแกนที่ชนะเลิศจากการเสนอของแฟนคลับ) ที่สร้างสีสันและปรากฏการณ์ใหม่ให้กับสังคมไทย
ทั้งนี้นอกเหนือจากตัวเธอที่เป็นคนกลั่นไอเดียขำๆ แล้ว ยังประกอบด้วยทีมงานซึ่งเป็นเพื่อนสนิทอีก 2 คน คือ วันชนะ ทองคำเภา ซึ่งรับผิดชอบดูแลบริหาร Fan Page ของใจดีทีวี และ ชนันท์ พุ่มไสว ที่เป็นคนชี้แนะช่องทางแจ้งเกิดใจดีทีวีในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะใน Social Media
POSITIONING พบกับเธอและทีมงานที่สีลมในช่วงเวลาที่เธอกลับมาจากนอร์เวย์เพื่อเยี่ยมเยียนบ้านเกิดที่โคราช และเริ่มต้นสานฝันภารกิจ ใจดีทีวี เรียลลิตี้ เพื่อต่อยอดจาก Internet TV สู่รายการโทรทัศน์ทางฟรีทีวี ฝันที่เธอมุ่งมั่นจะทำมันให้เป็นจริง
“ที่ผ่านมาขำอย่างเดียว มีชื่อเสียงแต่ไร้เงินทอง ตอนนี้เงินใกล้จะหมดแล้ว เสียงหัวเราะก็ไม่อิ่ม” เธอเปิดฉากบอกเล่าถึงความสำเร็จที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้
จากการเป็น Youtube Star และมี Web TV เป็นของตัวเอง ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2554 พบว่า Fan Page ของใจดีทีวี มีคนกด Like จำนวน 36,099 คน ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก 3 คลิปแรกออนแอร์บน Youtube และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอและทีมงานเชื่อมั่นว่า ใจดีทีวีมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้
นับว่าไม่ธรรมดาสำหรับผู้หญิงไทยธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่นอร์เวย์ ที่เหงา จิตตก และใช้เวลาว่างอยู่กับอินเทอร์เน็ต
และสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ลองเล่นกับอานุภาพของ Youtube เพียงนึกสนุกกับกลุ่มเพื่อนฝูง และพบว่าในเวลาไม่นานก็เปลี่ยนชีวิตเธอจาก Nobody กลายเป็น Somebody ในโลกออนไลน์ได้
“ก่อนหน้านี้แอบอิจฉาคนที่ทำคลิปออกมาแล้วมีคนดู 400 ครั้ง พอเราทำแล้วตอนนี้มีคนดูหลายแสน ก็ไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นกับเราได้ ดังนั้นถ้าใครมีความสามารถก็แนะนำให้ทำ Youtube เพราะเกิดง่ายและโดน ”
“เธอเล่าถึงรูปแบบการทำงานของใจดีทีวีว่า ”
“มีออฟฟิศอยู่ใน Skype เจอกันเกือบทุกวัน ปรึกษาไอเดีย กลยุทธ์ต่างๆ ปึ้กมาก แต่ยังหาเงินไม่เป็นสักคน กลัวถูกการควบคุมทางความคิดมาก เคยมีบริษัทเบียร์ติดต่อมาก็ไม่รับเพราะผิดศีล 5 และไม่รับโปรเจกต์ที่ฟิกซ์เกินไป”
อย่างไรก็ตาม เธอรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่ใจดีทีวีจะต้องเติบโต และทำเงินได้ โดยช่องทางฟรีทีวี นั่นจึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ใจดีทีวี เรียลลิตี้ ที่เธอเปิดฉากตั้งแต่อยู่นอร์เวย์ กับการโทรศัพท์ติดต่อไปยังบริษัทผู้ผลิตรายการเพื่อถามหาโอกาสดังกล่าว
“โทรไป 10 ที่ มีคนรู้จักอยู่ที่เดียว คือ เวิร์คพอยท์”
ด้วยความที่เธอบอกเล่าทุกขั้นตอนผ่านคลิปวิดีโอ ทำให้บรรดาแฟนคลับต่างเอาใจช่วยและร่วมลุ้นไปกับเส้นทางล่าฝันดังกล่าว แม้เสียงปลายสายส่วนใหญ่จะนำมาซึ่งคำตอบที่น่าถอดใจก็ตาม
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอลดละความพยายาม ด้วยความเชื่อมั่นในคอนเทนต์ที่แตกต่างและศักยภาพของตัวเองและทีมงาน ทำให้เธอเล็งเห็นโอกาสที่ใจดีทีวีจะเผยโฉมสู่แมสได้
“โลกนี้มีอยู่ 3 จอ เราไปแล้ว 2 จอ คือ คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เหลืออีกจอเดียวที่จะเป็นโอกาสสำคัญ และเราอยากนำเสนอคอนเทนต์ที่ฟรีทีวีไม่มี เพราะเราในฐานะคนดูก็รู้สึกเบื่อ รู้สึกเซ็ง เช่น รายการข่าวทำไมมีแต่เรื่องแย่ๆ เด็กวัยรุ่นข่มขืนคนแก่ ชาวบ้านไล่พระ มันทำให้ชีวิตหดหู่นะ อยากทำรายการ ข่าวดีที่จะทำให้คนเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกดี หรือปิดท้ายค่ำคืนด้วยความรู้สึกดี”
นอกจากนี้เธอยังอยากทำโปรเจกต์ในรูปแบบรายการที่ออกอากาศเป็นซีซั่นเหมือนรายการต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เธอสามารถใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่เมืองไทยและนอร์เวย์ได้
“ที่จริงความฝันนี้ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น เพราะอยากมีรายการทีวีเป็นของตัวเองมาตั้งแต่ช่วงอายุ 24-25 ปี แต่บางอย่างยังไม่พร้อม โดยเฉพาะประสบการณ์ แต่ตอนนี้มีประสบการณ์มากขึ้น มีมุมมองที่กว้างและลึกขึ้น และมั่นใจว่าจะทำได้หากได้รับโอกาส”
“เส้นทางที่เดินมาเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงพอสมควร ความฝันตั้งแต่เด็กคืออยากเป็นพิธีกร ชอบสัมภาษณ์เพื่อน และมีโอกาสเป็นผู้ประกาศข่าวที่เอไทม์อยู่ช่วงหนึ่งก่อนเดินทางไปต่างประเทศ”
เธอมีไอดอลเป็นผู้ดำเนินรายการดังอย่างโอปราห์ วินฟรีย์ ที่เกิดจากการเป็น Nobody เช่นเธอ แม้เส้นทางความสำเร็จของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
“ชอบโอปราห์ ผู้หญิงที่เริ่มจากจุดเล็ก แล้วกลายเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุด เพราะเธอทำทุกอย่างด้วยใจ และทุกอย่างจะกลับมาหาเธอเอง”
อย่างไรก็ตาม ฝันนี้ไม่ได้รีบเร่ง เพราะเธอคาดว่าโปรเจกต์ใจดีทีวี เรียลลิตี้ จะเป็นจริงนับจากวันนี้อีก 1 ปี