Content is King & Device is Queen. ตัวตนผู้บริโภคที่คุณต้องรู้จัก

สิ่งที่คู่กันมาของเทคโนโลยี อุปกรณ์ทันสมัยและคอนเทนต์ที่หลากหลาย ในเวลานี้จึงเปลี่ยนโฉมการเสพรายการบันเทิงของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเว็บทีวี กล่องอินเทอร์เน็ตทีวีในอนาคต คลิปวิดีโอเว็บไซต์ และสมาร์ททีวี ไปอย่างมาก และนี่คือการเปลี่ยนอย่างรวดเร็วที่นักการตลาด นักโฆษณาต้องจับตา และต้องรู้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณในโลกบันเทิงแห่งใหม่ใบนี้

“ทิวา ยอร์ค” ผู้อำนวยการ แพลตฟอร์ม บริษัทออมนิคอม มีเดีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่าช่องทางการดูทีวีของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากอดีตมีเฉพาะฟรีทีวี ยุคต่อมามีเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม ทีวีออนไลน์ ที่เป็นฟรีทีวีแต่ผ่านช่องทางออนไลน์ จนมาถึงทีวีอินเทอร์เน็ต แบบไอพีทีวี มีสมาร์ทีวีที่ต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เป็นโอกาสของคอนเทนต์จากผู้ผลิตหน้าใหม่ ที่สามารถหาผู้ชมเฉพาะกลุ่มของตัวเองได้ และเป็นโอกาสของผู้บริโภคในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ อยากเลือกและมีให้เลือกมากขึ้น

ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง เพราะโซเชี่ยลมีเดียและโมบายล์ทำให้คนสามารถแบ่งปันคอนเทนต์กันได้ตลอดเวลา บทบาทของโซเชี่ยลมีเดียทำให้คอนเทนต์ที่ถูกใจกลายเป็นไวรัลในเวลาอันรวดเร็ว เช่น กรณีของครัวกากๆ เชฟหมีที่คนดูชอบแล้วกระจายไปยังเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ จากสมัยก่อนที่กระจายผ่านอีเมล หรือในเว็บบอร์ดพันทิพ ส่วนสื่อโมบายล์อย่างสมาร์ทโฟน ทำให้คนเข้าอินเทอร์เน็ต เว็บง่ายขึ้น ยิ่งทำให้เกิดการแชร์กันได้ง่ายและเร็ว

จากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้มองเห็นได้ชัดว่า Content is King. และ Device is Queen.

แล้วนักการตลาดต้องวางแผนอย่างไรเมื่อสื่อดั้งเดิมอย่างฟรีทีวี หรือจอทีวีเริ่มมีคู่แข่งมากขึ้นในการแย่งสายตาผู้ชม ทีวีซีที่เคยใช้ได้ผลในการสร้างการรับรู้สินค้าอาจไม่ง่ายอีกต่อไป แม้จะมีเงินซื้อเวลาได้อย่างมหาศาล

“ทิวา” บอกว่าขณะนี้แม้ยังไม่เห็นว่าคนดูทีวีน้อยลง แต่ผู้บริโภคจะมีสื่ออื่นในมือที่สนใจมากขึ้น เช่น บางคนดูทีวีพร้อมกับใช้ไอแพด สมาร์ทโฟน ความท้าทายนี้สำหรับนักโฆษณาไม่ต่างจากเดิมที่คนดูทีวีเมื่อถึงเวลาโฆษณาจะกดรีโมตเปลี่ยนช่อง ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคไม่ได้ตั้งใจดูโฆษณาโดยเฉพาะถ้าโฆษณานั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา ก็ไม่สามารถจับผู้บริโภคไว้ได้

โจทย์ข้อนี้ มีคำตอบคืองานโฆษณาที่สร้างสรรค์ และการใช้สื่อหลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเกื้อหนุนกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขที่ยังสะท้อนถึงบทบาทของทีวีคือพฤติกรรมคนค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าในอินเทอร์เน็ตมาจากการรับรู้จากทีวีซีมาก่อนถึง 37%

ในกระแสของอินเทอร์เน็ตทีวีและเว็บทีวีที่มีโมเดลประสบความสำเร็จจากความดังของหน้าใหม่ๆ อย่าง iHeretv fukduktv หรือแม้แต่ครัวกากๆ ทำให้ ”ทิวา” เริ่มให้ข้อมูลกับลูกค้าว่าสื่อนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์เพื่อสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ วัยทำงานที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์

เซ็กเมนต์ที่คุณต้องเข้าให้ถึง

สอดคล้องกับผลวิจัยของบริษัทวิจัย Effective Measure ที่พบว่าคนรุ่นใหม่ วัยทำงานคือผู้บริโภคคอนเทนต์ออนไลน์จำนวนมากที่สุด และมีไลฟ์สไตล์ที่พร้อมรับสิ่งใหม่ นี่คือข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ และกลุ่มที่อยากพัฒนาคอนเทนต์ให้โดนกลุ่มนี้

“มุทิตา กิมาคม” ผู้จัดการแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัทเอฟเฟคทีฟ มีเชอร์ จำกัด แชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมของการดูรายการบันเทิง และทีวีผ่านออนไลน์ ที่มีการสำรวจผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ระหว่างวันที่ 27 เมษายน -27 พฤษภาคม 2554 พบว่าผู้หญิงให้ความสนใจคอนเทนต์บันเทิงมากกว่าผู้ชาย ขณะที่เว็บทั่วไปผู้ชายจะมากกว่าผู้หญิง กลุ่มที่มีรายได้ดีให้ความสนใจมากกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มอาชีพนักธุรกิจ นักโฆษณาสื่อ ที่ต้องศึกษาเรื่องเทรนด์ของสื่อก็ให้ความสนใจสูง

แต่บันเทิงเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็สนใจ แม้แต่กลุ่มที่ไม่ต้องศึกษาเรื่องนี้เพื่อหน้าที่การงาน แต่มีโอกาสได้ดูคอนเทนท์บันเทิงน้อยอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ คอลเซ็นเตอร์ ต่างให้ความสนใจคอนเทนท์บันเทิงจำนวนมาก

เริ่มจากการทำความรู้จักคนในโลกบันเทิงออนไลน์ก่อน ซึ่งพบว่ากลุ่มอายุที่อยู่มากที่สุดคือวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง รองลงมากลุ่มเริ่มทำงานและวัยรุ่นนักศึกษา

หากแบ่งผู้บริโภคในยุคนี้เป็น 7 กลุ่มตามไลฟ์สไตล์ พบว่ากลุ่มที่อยู่ในออนไลน์ที่ดูคอนเทนต์บันเทิงมากที่สุดคือกลุ่มชอบลองของใหม่ แต่เมื่อวัดความสนใจของแต่ละคนแล้ว กลุ่มที่ให้ความสนใจความบันเทิงออนไลน์มากจนถึงน้อยเรียงลำดับได้ดังนี้

1. กลุ่มที่สนใจใส่ใจแฟชั่น
2. กลุ่มชอบลองของใหม่
3. กลุ่มใฝ่รู้ หาข้อมูล
4. กลุ่มที่ชอบให้ความคำแนะนำ
5. กลุ่มที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพ ความงาม
6. กลุ่มที่มีความสามารถในการเข้าสังคม พบกับคนแปลกหน้าได้ไม่เคอะเขิน
7. กลุ่มที่ตัดสินใจซื้อสินค้าได้โดยไม่คิดมากนัก

สำหรับสถานที่เชื่อมต่อออนไลน์พบว่ามีการต่อจากที่บ้านมากกว่าที่ทำงาน และยิ่งดูจากที่บ้านยิ่งต้องการคอนเทนท์บันเทิงมากกว่าเมื่ออยู่ออฟฟิศ และมีการเชื่อมต่อผ่านมือถือ 40.83%

1. 64.77% ต่อจากที่บ้าน
2. 29.64% ที่ทำงาน
3. 1.26% อินเทอร์เน็ตคาเฟ่
4. 2.67% สถาบันการศึกษา
5. 1.66% ช่วงระหว่างเดินทาง

กลุ่มที่ต้องการคอนเทนต์บันเทิงมากแม้จะไม่ใช่เป็นกลุ่มที่มีจำนวนสูงสุดที่ถูกสำรวจ 5 อันดับแรกคือ

1. อาชีพในอุตสาหกรรมบันเทิง ศิลปะ
2. คอลเซ็นเตอร์
3. โฆษณา สื่อ
4. นักออกแบบ
5. กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ

ข้อมูลที่สามารถให้สรุปสุดท้ายได้ว่าเพราะเหตุใดคอนเทนต์บันเทิงในเว็บทีวี หรือที่จะตามมาในอนาคตไม่ว่าจะผ่านกล่องอินเทอร์เน็ตทีวี หรือเว็บรวมคลิปวิดีโอ มีโอกาสที่เติบโตไม่หยุดในไทยนับจากนี้ คือทุกเว็บที่คนไทยเข้าใช้ แม้ Youtube ไม่ใช่อันดับ 1 ที่คนเข้ามากที่สุดแต่คือเว็บที่ผู้บริโภคคอนเทนต์คนไทยใช้เวลาอยู่นานที่สุด