“สีลมเอจ” มิกซ์ยูสแห่งใหม่ล่าสุดบนสุดยอดทำเลหัวมุมถนนพระราม 4 – สีลม ของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ “FPT” รุดหน้าตามแผนพร้อมให้บริการในเดือนกันยายน 2565 ทั้งส่วนพื้นที่สำนักงานและพื้นที่รีเทลสำหรับคนเจนใหม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบของคนเมือง พร้อมตอบโจทย์สังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ
โครงการสีลมเอจ ซึ่งเป็นโครงการ Re-development ครั้งแรกของ FPT ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “The new sandbox community in CBD” ที่แหวกแนวจากการพัฒนาโครงการทั่วไป เพื่อจับเทรนด์ดิจิทัลดิสรัปชั่นพร้อมส่งเสริมความเชื่อมโยงผู้คนในทุกมิติตามแนวคิด “BE DIFFERENT. BE CONNECTED.” เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าและผู้ใช้บริการNew Gen ธุรกิจStart-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ต้องการสร้างการเรียนรู้ ต่อยอดธุรกิจ และสร้างการเติบโตผ่านพื้นที่แซนด์บ็อกซ์คอมมูนิตี้แห่งนี้
หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว โคเวิร์คกิ้งสเปซ ‘จัสโคx สีลมเอจ’ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการพื้นที่สำนักงานรูปแบบ Core & Flex ล่าสุดบริษัทฯ สามารถปิดดีลกับสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นน้องใหม่ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจ Food-Biotech ที่จะเดินหน้าขยายพื้นที่สำนักงานเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกที่สีลมเอจ ตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกสังคมแซนด์บ็อกซ์ใจกลางเมืองแห่งแรก รวมถึงเป็นแหล่งรวมบริษัทชั้นนำและสตาร์ตอัพชื่อดังในหลากหลายประเภทธุรกิจ ทั้งเทคโนโลยี ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง พร็อพเทคด้วยคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่น และราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสุดยอดทำเลที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT ทำให้ปัจจุบันมีการจองพื้นที่เช่าก่อนเปิดให้บริการ (Pre-lease) สำหรับส่วนสำนักงานของสีลมเอจกว่า 60%
นอกจากนี้ คอนเซ็ปต์ของการเป็นแซนด์บ็อกซ์คอมมูนิตี้ยังได้ถูกประยุกต์ใช้มายังพื้นที่รีเทลของสีลมเอจด้วยเช่นกัน โดยได้เตรียมความพร้อมในการเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกธุรกิจเริ่มต้นได้ง่ายด้วยบริการที่ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกความต้องการ (All Inclusive Services) พื้นที่รีเทลทั้ง 4 ชั้นประกอบด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน 2 ชั้น และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหารร้านสะดวกซื้อร้านขายยาและเครื่องจำหน่ายสินค้าคุณภาพด้วยระบบอัตโนมัติ
ปัจจุบัน พื้นที่ส่วนรีเทลได้ปิดดีลกับลูกค้าแบรนด์ดังและเซอร์วิสต่างๆแล้วกว่า 30% และอยู่ระหว่างการทยอย
คัดเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมเข้ามาในพื้นที่เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สีลมเอจ จะเป็นพื้นที่ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริงโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของการให้บริการแบบเดิมๆ
ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ‘สีลมเอจ’ มิกซ์ยูสใจกลาง CBD นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดรับกับสถานการณ์โควิด-19ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐ ภาคธุรกิจ รวมถึงประชาชนที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี และแสดงแนวโน้มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ทั้งพื้นที่สำนักงานและพื้นที่รีเทลในทำเลทองยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง”
“การเปิดให้บริการสีลมเอจ แซนด์บ็อกซ์คอมมูนิตี้แห่งนี้จะเป็นจุดพลิกวงการของอาคารมิกซ์ยูสสู่ยุคอนาคตด้วยการส่งมอบพื้นที่เพื่อพาณิชยกรรมที่ครบครันล้ำสมัยในทำเลยุทธศาสตร์ ที่โดดเด่นและแตกต่างด้วยรูปแบบการให้บริการที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าและผู้ใช้บริการเป็นสำคัญพร้อมกับส่งมอบพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงาน-ใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างลงตัวทำให้พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและธุรกิจทุกขนาดภายในโครงการให้พร้อมเติบโตและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น”ธนพล กล่าวเสริม
โครงการสีลมเอจ เป็นอีกหนึ่งโครงการศักยภาพของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ในสุดยอดทำเลใจกลาง CBD เชื่อมต่อกับทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ช่วยสร้างแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจ โดยภายในอาคารประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและรีเทล 7 ชั้นรวมพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อม
รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติตลอดวัน สำหรับผู้สนใจเช่าพื้นที่สามารถติดต่อได้ที่ 02 483 0046 (พื้นที่เช่าสำนักงาน) และ 094 892 9492 (พื้นที่รีเทล)
สีลมเอจ มิกซ์ยูสแห่งใหม่บนถนนพระราม 4 เชื่อมต่อ BTS และ MRT
พร้อมให้บริการพื้นที่เช่าสำนักงานแบบมาตรฐานและแบบยืดหยุ่น (Core & Flex) ตามความต้องการของผู้เช่าในธุรกิจที่หลากหลาย
ทุกพื้นที่ออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานที่ยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูงสุด รองรับชีวิตการทำงานของคนเจนใหม่
พื้นที่รีเทลบนทำเลทองที่รองรับทราฟฟิกกว่า 500,000 คน/วันในวันธรรมดา และ
700,000 คน/วันในวันสุดสัปดาห์