ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือธุรกิจแบบไหน การเลือกใช้เครื่องมือในการจัดการข้อมูลที่ดี ย่อมส่งผลให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเชิง กลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ โดยเครื่องมือในการจัดการข้อมูล หรือ Data Analytics Tools นั้นมีมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Excel, BI Tools, หรือแม้แต่การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา R หรือ Python
ล่าสุด STelligence ผู้ให้บริการด้านไอทีที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Data Science ได้แนะนำ TigerGraph เครื่องมือในการจัดการข้อมูลที่ทรงประสิทธิภาพรูปแบบใหม่ในแบบ Graph Database ซึ่ง TigerGraph เป็นซอฟท์แวร์แอปพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับและจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล ใช้เวลาประมวณผลอย่างรวดเร็ว สามารถหาความสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ โดยนําไปใช้ในงานตรวจสอบการทุจริต (Fraud Detection), การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบ Customer 360, การบริหารจัดการกับ Mobile Device ต่างๆ (MDM), การใช้งานของ IoT, การประมวลผล AI และ Machine Learning (ML) ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
ดร.สันติสุข ลิ้มปิติเจริญโชติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด (STelligence) กล่าวว่า ในยุคที่ Data เปรียบเสมือนทองคำ องค์กรทุกองค์กรจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น การมีเครื่องมือที่สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างถูกต้องและแม่นยำในเวลาเดียวกันแบบเรียลไทม์ เครื่องมืออย่าง TigerGraph จาก STelligence จึงเหมาะที่จะเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังทำหน้าที่บริหารข้อมูลเพื่อให้องค์กรสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
TigerGraph หรือ ฐานข้อมูลกราฟสมัยใหม่ ซึ่งนำมาใช้แก้ปัญหา Database ที่มีข้อมูลขนาดใหญ่ โดยไม่มีรูปแบบชัดเจน และมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อนที่เทคโนโลยีอื่นไม่สามารถทำได้ ด้วยฐานข้อมูลแบบ Graph Database ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงกับข้อมูลที่น่าสนใจได้อย่างชัดเจน รวมถึงมีความสามารถในการเก็บข้อมูลที่ไม่ได้กำหนดรูปแบบล่วงหน้า จึงเป็นที่ถูกใจนักวิเคราะห์ข้อมูลเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกและการทำธุรกรรมที่ซับซ้อน
สรุปคุณสมบัติสำคัญของ TigerGraph ที่จะเป็นผู้ช่วยอันทรงพลังในการวิเคราะห์ข้อมูล จาก STelligence
- เป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน และมีความสมบูรณ์ของการอ้างอิง สามารถดึงข้อมูลได้ทุกประเภท
- มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการสืบค้นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ได้ดี และรวดเร็ว
- สามารถสร้างแบบจำลองข้อมูลได้แบบเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- ฐานข้อมูลแบบกราฟ สามารถวิเคราะห์ได้อย่างอิสระ โดยรูปแบบกราฟมีให้เลือกมากมาย ไม่ซับซ้อน ไม่สิ้นเปลืองเวลาการทำงานในการจำลองข้อมูลซ้ำๆ
- สามารถสืบค้นและอัปเดตข้อมูล/กราฟพร้อมกันได้แบบเรียลไทม์ แตกต่างจากในอดีตที่ไม่สามารถป้อนข้อมูลใหม่แบบเรียลไทม์ได้
- สามารถตรวจจับและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ส่วนบุคคล และแอปพลิเคชันข้อมูลธุรกรรม หรือการเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ ได้หลากหลายตามความต้องการเฉพาะด้านของธุรกิจ
- ฐานข้อมูลแบบกราฟช่วยแก้ปัญหาในการค้นหาเชิงสัมพันธ์ สามารถเขียนอัลกอริธึมในภาษาได้ตามความต้องการในการใช้งาน ทำให้ยืดหยุ่นและลดระยะเวลาในการนำข้อมูลไปใช้ได้
“เมื่อ Data มีความจำเป็นสำหรับธุรกิจมากขึ้น การเลือกใช้เครื่องมือที่ง่าย สะดวก และเหมาะสมจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปสู่อีกระดับ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเลือกเครื่องมือนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายการทำการตลาด ข้อมูลที่ต้องการทราบ ตลอดจนความถนัดของผู้ใช้งาน ซึ่งหลายครั้งที่องค์กรต่างๆ เลือกที่จะมองหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาในการจัดการข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจก่อน ดังนั้นการได้รับคำแนะนำหรือคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีด้าน Data Science อย่าง STelligence จึงมั่นใจได้ว่า บริษัทฯ จะสามารถพาองค์กรสู่ความสำเร็จด้วยเครื่องมือการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยตอบสนองความต้องการของทุกองค์กรได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” ดร. สันติสุข กล่าวสรุป