บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี เดินหน้ายุทธศาสตร์ CRC Retailligence ทุ่มงบ 17,000 ล้านบาท ยกระดับธุรกิจกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้กางแผน 5 ปี ปรับโฉม “โรบินสันไลฟ์สไตล์” ให้กลายเป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจร ด้วยมิติใหม่ของความทันสมัย ในรูปแบบที่สะดวกสบายและครบครันยิ่งขึ้น เน้นแนวคิดการออกแบบศูนย์การค้าแต่ละแห่งให้มีเอกลักษณ์สอดรับกับพื้นที่และชุมชน ตอบโจทย์การเป็น “Lifestyle and Experiential Community” ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน และเป็นศูนย์รวมทุกความต้องการทั้งห้างสรรพสินค้า และร้านสเปเชียลตี้สโตร์ อาทิ ห้างโรบินสัน ท็อปส์ มาร์เก็ต ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย บีทูเอส ออฟฟิศเมท ออโต้วัน ที่รวบรวมสินค้าและบริการอีกกว่า 800 แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและระดับโลก รวมถึงโซนร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ภายในปี 2565 เตรียมเดินหน้าขยายสาขาใหม่ พร้อม รีโนเวทเพิ่มพื้นที่ศูนย์ฯ ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก “การออกแบบแนวคิดใหม่เข้ากับชุมชน – สร้างธุรกิจใหม่แบบมิกซ์ยูส – สนับสนุนชุมชน – เติบโตแบบยั่งยืน” สอดรับวิสัยทัศน์ “มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่าง สำหรับการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ใกล้บ้านคุณ” ทั้งนี้คาดว่าภายในปี 2565 ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ จะสร้างรายได้เติบโตมากกว่า 30% จากปี 2564 พร้อมตั้งเป้าภายใน 5 ปี สร้างการเติบโตแบบเท่าตัว ผ่านการขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคจากปัจจุบัน 24 จังหวัด เป็น 49 จังหวัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำศูนย์การค้าที่ครอบคลุมจำนวนจังหวัดมากที่สุดในประเทศ
นายฟิลิปป์ โบรยานิโก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานอสังหาริมทรัพย์ และพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เป้าหมายหลักของการดำเนินธุรกิจ คือการสร้างศูนย์การค้าให้เป็น “ศูนย์กลางของชุมชนและเป็นของทุกคนในจังหวัด” โดยตั้งเป้า 5 ปี นับจากนี้ ในการพลิกโฉมโรบินสันไลฟ์สไตล์ ให้มีความแตกต่างอย่างเหนือระดับในทุกมิติ ทั้งรูปลักษณ์และการบริการ โดยเน้นสร้างความโดดเด่นจากการดึงเอาอัตลักษณ์ในท้องถิ่นมาผสานแนวคิดการออกแบบศูนย์การค้า แต่ละแห่งให้สอดรับกับพื้นที่และชุมชน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่โซนฟู้ดและน็อนฟู้ด เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการและเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสุขให้กับลูกค้าได้อย่างลงตัว ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก เพื่อมอบประสบการณ์ที่สร้างสีสันความสนุกสนาน สดใส มีชีวิตชีวาแก่ชุมชนอย่างเต็มรูปแบบ ที่สำคัญต้องเติบโตควบคู่ไปกับชุมชนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางของชุมชนและทุกคนในจังหวัดอย่างแท้จริง”
4 กลยุทธ์หลัก สู่การเป็น “Lifestyle and Experiential Community” ประกอบด้วย
- การออกแบบแนวคิดใหม่เข้ากับชุมชน ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันมี 25 สาขา ครอบคลุม 24 จังหวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศทั้งหัวเมืองใหญ่และเมืองรอง มีพื้นที่รวมกว่า 1.6 ล้าน ตร.ม. และจำนวนผู้เช่ากว่า 3,000 ราย เน้นการปรับพื้นที่ศูนย์การค้าแต่ละแห่งให้มีความกลมกลืนตามอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน รวมถึงมีการนำแลนด์มาร์คของแต่ละท้องถิ่นมาประยุกต์เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้มีความทันสมัย ให้เป็นเสมือนศูนย์การค้าที่สร้างมาเพื่อชุมชนและให้ทุกคนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของแนวคิด เพื่อทำให้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่เป็นของทุกคนในชุมชน ตลอดจนเพิ่มพื้นที่ Rest Area & Co-Working Space เน้นการปรับผังของโซนต่างๆ เพิ่มความคล่องตัวในการเดินช้อปปิ้งได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และเป็นศูนย์การค้าที่เติมเต็มทุกความสุขให้การใช้ชีวิตของลูกค้าเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
- สร้างการเติบโตผ่านธุรกิจรูปแบบใหม่ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำต่อยอดศูนย์การค้าบนทำเลศักยภาพให้เป็นรูปแบบมิกซ์ยูส ในการสร้างคอนโดและโรงแรมควบคู่กับศูนย์การค้า เพื่อดึงทราฟฟิกและมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมแผนบุกตลาดด้วยธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อเนรมิตศูนย์การค้ารูปลักษณ์ใหม่ที่เข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายในปี 2565 นี้ เช่นกัน
- ส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของชุมชนในท้องถิ่น มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ผ่านการส่งเสริมธุรกิจไทยรายย่อย ผลักดัน SMEs และ Start Up ให้เข้มแข็ง โดยเปิดพื้นที่ช่วยผู้ประกอบการให้นำสินค้าขึ้นชื่อประจำจังหวัดและของดีในท้องถิ่นมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้กระจาย สู่ชุมชน ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมของท้องถิ่นในด้านต่างๆ ร่วมกับหน่วยงาน วัด ชุมชนใกล้เคียง โดยการเข้าไปช่วยเหลือและสนับสนุนด้านสิ่งของ หรือ การส่งกำลังคนเข้าไปร่วมพัฒนาชุมชน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนโยบายบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชุมชน รวมถึงมีส่วนในการพัฒนาและผลักดันพื้นที่ชุมชนโดยรอบให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
- สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาศูนย์การค้าแล้ว โรบินสันไลฟ์สไตล์ ยังตระหนักและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งผลักดันการใช้พลังงานทดแทน สอดรับเทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญด้านพลังงานสีเขียว (Green Energy) ด้วยการลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้ดำเนินการติดตั้ง SOLAR ROOFTOP เพื่อผลิตไฟฟ้า ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2559 ซึ่งตลอด 6 ปี ของการติดตั้ง SOLAR ROOFTOP โรบินสันไลฟ์สไตล์ สามารถลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากถึง 28 ล้านกิโลกรัม ทั้งนี้ภายในปี 2565 จะสามารถเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าลงได้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมขยายจำนวนสาขาที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ที่ผลิตจากพลังงานทดแทนได้ถึง 23 สาขาตามแผนที่วางไว้
จากการมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งนี้ ทำให้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ สามารถสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉม ครั้งสำคัญของ โรบินสันไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง จ. ระยอง หนึ่งในต้นแบบความสำเร็จของศูนย์การค้ามิติใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sense of Island” ที่ได้รังสรรค์ความงดงามผ่านการนำเอาสีฟ้าของน้ำทะเล ซึ่งเป็นหนึ่ง ในอัตลักษณ์ของบ้านฉางมาเป็นแกนหลักในการออกแบบ และสอดรับกับการเป็น ‘ศูนย์กลางการคมนาคม ภาคตะวันออก’ และผสานความเป็นโรบินสันไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บนพื้นที่รวมกว่า 38,000 ตร.ม. ใช้งบลงทุน 900 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับการเน้นเพิ่มพื้นที่โซนฟู้ดมากกว่า 40% ขณะที่โซนน็อนฟู้ดครบครันด้วย แฟชั่น ไอที และความบันเทิง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นแลนด์มาร์คแห่งภาคตะวันออก ขณะที่การขยายสาขาใหม่และการรีโนเวท เพิ่มพื้นที่ศูนย์ฯ ยังคงมุ่งเน้นการออกแบบศูนย์การค้าให้สอดรับแนวคิด ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลักเช่นกัน
โดยในปี 2565 มีแผนเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่จำนวน 2 สาขา ได้แก่ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ถลาง จ. ภูเก็ต ตั้งอยู่ใจกลาง อ.ถลาง บนพื้นที่กว่า 44,000 ตร.ม. ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 1,100 ล้านบาท การออกแบบเป็นสไตล์ชิโนโปรตุกีส พร้อมเปิดให้บริการเดือนสิงหาคมนี้ และ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของโรบินสันไลฟ์สไตล์ บนพื้นที่กว่า 48,000 ตร.ม. ใช้งบลงทุน 1,200 ล้านบาท เน้นการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Enjoy Modern Lifestyle Beside you” มีแผนเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้
ขณะที่การรีโนเวทเพิ่มพื้นที่ศูนย์ฯ ในปีนี้ ใช้งบลงทุน กว่า 580 ล้านบาท ปรับปรุงเพิ่ม 3 สาขา ด้วยกัน ได้แก่ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ฉะเชิงเทรา เน้นการปรับปรุงพื้นที่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Odyssey นำโครงสร้างเรือที่เป็นอัตลักษณ์ประจำจังหวัดมาใช้ในการออกแบบ และมีการขยายพื้นที่ร้านค้าเช่าจากเดิมเพิ่มขึ้นเป็น 30% นอกจากนี้ยังเพิ่มร้านค้า โซนฟู้ด และโซนน็อนฟู้ดที่เป็นแบรนด์แฟชั่นและไอที และแบรนด์ดังอื่นๆ อีกมากมาย คาดว่าจะแล้วเสร็จแบบเต็มรูปแบบในเดือนสิงหาคม 2565 ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน ได้แนวคิดการออกแบบในคอนเซ็ปต์ “The River of Life” สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวนนทบุรีที่อยู่คู่กับแม่น้ำเจ้าพระยามาอย่างยาวนาน โดยมีการปรับโฉม เพิ่มร้านค้าชั้นนำโซนฟู้ด และโซนน็อนฟู้ด คาดว่าจะแล้วเสร็จแบบเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2565 และ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ จันทบุรี มีแผนปรับโฉมศูนย์การค้าให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่จอดรถ การปรับผังร้านค้าและโซนต่างๆ รวมถึงเพิ่มเติมร้านค้าชั้นนำใหม่ๆ โดยมีแผนรีโนเวทในช่วงปลายปี 2565 นี้
“เราเชื่อมั่นว่า ด้วย 4 กลยุทธ์ที่แข็งแกร่งผสานกับเป้าหมายการเติบโตในอีก 5 ปี ที่พร้อมมุ่งสู่การเป็น “Lifestyle and Experiential Community” ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน จะทำให้โรบินสันไลฟ์สไตล์กลายเป็นศูนย์การค้ามิติใหม่ที่ทันสมัยและเป็นศูนย์รวมความสะดวกสบายที่ครบครัน เพื่อให้ทุกคนได้เติมเต็มการ ใช้ชีวิตในหนึ่งวันได้ครบจบในที่เดียว ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปี 2565 นี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ จะมีรายได้เติบโตมากกว่า 30% จากปี 2564 และเสริมความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำศูนย์การค้าที่ครอบคลุมจำนวนจังหวัดมากที่สุด 49 จังหวัดทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน รวมทั้งสามารถเพิ่มศักยภาพของกลุ่มธุรกิจ พร็อพเพอร์ตี้ของเซ็นทรัล รีเทล ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายฟิลิปป์ กล่าวปิดท้าย