MI Group คว้า 10 รางวัล จากเวที MAAT Media Awards 2022

จากการประกาศผลรอบ Final ของสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT ที่จัดขึ้นเมื่อค่ำวานนี้ วันที่ 14 มิถุนายน การประกาศผลรอบ Final ในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นหลังเว้นว่างมา 3 ปีเต็มจากสถานการณ์ระบาดของโควิด โดยคัดเลือกจากผลงานที่เอเจนซี่มีเดีย และผู้ประกอบธุรกิจสื่อส่งเข้าประกวดกว่า 188 ผลงาน และมีผู้เข้ารอบสุดท้าย (Finalists) จำนวน 107 ผลงาน แบ่งการตัดสินออกเป็น 3 ปีคือ 2019-2022 โดยพิจารณาจากภูมิทัศน์สื่อที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีสำหรับการประกาศผล MAAT Awards 2022 ในปีนี้ Category ที่ผลงานได้รับรางวัล Gold Awards จากการตัดสินของคณะกรรมการมีเพียง 10 Categories จากทั้งหมด 23 Categories เท่านั้น

โดย MI Group (หรือ Media Intelligence Group) ร่วมส่งผลงานเข้าประกวด 22 ผลงาน ได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย (Finalists) จำนวน 14 ผลงาน และสุดท้ายสามารถคว้า MAAT Awards ในสาขาต่างๆ ได้ถึง 10ผลงานดังนี้

วรินทร์ ทินประภา Chief Strategy Officer ของ MI Group ได้กล่าวว่า ตนเองและ Business Team ของMI Group ทั้ง 5 ทีมอันประกอบได้ด้วย Team-SCARLET, Team-LAVA, Team-INDIGO, Team-MAGENTA และ Team-MEDIAINSIGHT รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้รับรางวัลจากเวที MAAT Awards ในครั้งนี้ ต่อเนื่องจากครั้งที่ผ่านๆ มา เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของกลยุทธ์การสื่อสาร การผสมผสานไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีในการวางแผนการสื่อสารการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากและปรับเปลี่ยนตลอดเวลาในปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคและผู้เสพสื่อที่มีความซับซ้อนขึ้น (more sophisticated) แตกกระจายเป็นกลุ่มย่อยมากขึ้น (fragmented audiences) และมีความชื่นชอบในคอนเทนต์ที่หลากหลาย (sub-cultures)

ทาง MI Group ให้ความสำคัญในการพัฒนาและติดอาวุธให้ Communication Strategists หรือนักวางแผนกลยุทธ์สื่อสารของเรา (เดิมเรียกว่า Media Planner) ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสามารถเป็นเพื่อนคู่คิด (Trusted Advisor) และเป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของแบรนด์ (Entrepreneurs), นักการตลาดและสื่อสารการตลาด (Marketing & Marketing Communication) เพื่อออกแบบการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คือ“ต้องสื่อสารให้ถูกกลุ่ม โดยคอนเทนต์ต้องโดนใจ ในช่องทางที่ใช่ และช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายเปิดใจ”และที่สำคัญต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ทางการตลาดของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ campaign ประสบความสำเร็จได้

วรินทร์ ยังกล่าวตอกย้ำอีกว่า “เราหมดยุค Mass Media มาหลายปีแล้ว การที่จะวางแผนสื่อสารแบบ OneSize Fits All คือ งานโฆษณา 1 ชิ้นถูกใช้สื่อสารบนสื่อดั้งเดิมเพียงไม่กี่สื่อแต่คาดหวังผลลัพธ์ที่ดีคือ การรับรู้ สนใจ  ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ตัดสินใจซื้อ ซื้อซ้ำหรือแฟนพันธุ์แท้ มันไม่ง่ายแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่กว่า 80% ของผู้บริโภคชาวไทยใช้งาน Internet และ Social Media ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เยาวชน Gen Y Gen Z อีกต่อไป การระบาดของ Covid-19 ในช่วง 2ปีที่ผ่าน ทำให้เราเห็นภาพนี้ดังกล่าวมานี้ได้ชัดเจนและเร็วขึ้นการเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค “Omni Customer Journey” (หรือ เส้นทางของผู้บริโภคที่เข้ามาสัมผัสกับแบรนด์ เกิดประสบการณ์ในเรื่องต่างๆกับแบรนด์ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีต่อแบรนด์ เช่น ยอดขาย) จึงเป็นหัวใจสำคัญในงานของเรา

หัวใจหลักของ MI Group ในการวางแผนสื่อสารการตลาดให้กับแบรนด์หรือสินค้า เน้นให้ความสำคัญกับ “Insight Led Media Planning” โดยไม่แยกสื่อออกเป็น “Offline” และ “Online” แต่เน้นต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงตัวตนของกลุ่มเป้าหมายที่จะสื่อสาร หรือที่เราเรียกกันว่า “Lifeline” ผ่านการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Social ListeningTool, การใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่จัดเก็บอย่างถูกต้องและได้รับการยินยอม (Consent & PDPA Compliance) หรือ Data Driven Communications เป็นหัวใจสำคัญของ Communication Strategists ในการวางแผนสื่อสารการตลาดในยุคปัจจุบัน เราต้องมีส่วนร่วมในการรับมือต่อความไม่แน่นอนและวิกฤตต่างๆของแบรนด์ (Crisis Management) ที่อาจมีเข้ามาด้วยเช่นกัน