• คาดประหยัดการใช้พลังงานได้กว่ า 13% เมื่อเทียบกับปี 2562 คิ ดเป็นมูลค่ากว่า 260 ล้านบาท
บริษัท เซ็นทรัลพั ฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ ของไทยและผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์ การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อ าคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ ขานรั บนโยบายภาครัฐ ร่วมใจประหยัดพลั งงานให้ประเทศไทยและโลกของเรา ต อกย้ำผู้นำศูนย์การค้าประหยั ดพลังงาน โดยเป็นศูนย์การค้ ารายแรกในประเทศที่ริเริ่มแผนแม่ บท Central’s Energy Efficiency Master Plan 2022 วางมาตรการเร่งด่วนภายใต้แ ผนงานระยะสั้น ด้วย Innovative & Design Thinking โดยมีผลบังคั บใช้ทันที ทั้ง 36 สาขา ทั่วประเทศ คาดช่วยประหยัดพลั งงานได้กว่า 13% (เมื่อเที ยบจากการใช้ไฟฟ้าในปี 2562) คิ ดเป็นมูลค่ากว่า 260 ล้านบาทเดิ นหน้าลงทุนติดตั้งนวัตกรรมและอุ ปกรณ์ประหยัดพลังงาน ปี 2022 สะท้อนความเป็นองค์กรที่โดดเด่นด้านการใช้พลังงานอย่ างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ย้ำการเป็นองค์กรยั่งยืนระดั บโลกตามแผนการดำเนินงาน Net Zero 2050 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Imagining better futures for all” มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่ “เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต ไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่ งแวดล้อม โดยเล็งเห็นถึ งความสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่ วมแรงร่วมใจกันประหยัดพลั งงานเพื่อชาติ ขานรั บมาตรการของภาครัฐ ด้วยแผน Proa ctive & Flexible Energy Efficiency โดยมุ่งเน้ นการประหยัดพลังงานในช่วงวั นธรรมดา (จันทร์- ศุกร์) ซึ่งถือเป็นนาที ทองของการประหยัดพลั งงานของประเทศ โดยยังคงรั กษาระดับอุณหภูมิภายในศูนย์ การค้าให้เย็นสบายไม่กระทบต่ อการใช้บริการของลูกค้า โดยศู นย์การค้าได้แบ่งมาตรการเร่งด่ วน Central’s Energy Efficiency Master Plan 2022 ประหยัดพลังงานไฟฟ้าส่ วนกลาง ออกเป็น 4 มาตรการ ดังนี้
1) ระบบปรับอากาศ ปรับลดเวลาการ ใช้งานเครื่องตามเวลาการเปิดบริ การศูนย์การค้าและสอดคล้องกั บจำนวนผู้มาใช้บริการ โดยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดั บ 26.5-28 องศาเซลเซียส ความชื้ นสัมพัทธ์ 60-65%
2) ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
• ภายในศูนย์การค้า ปรั บลดการเปิดไฟล่วงหน้าก่อนเปิ ดให้บริการ และปิดไฟให้เร็วขึ้นหลังปิดให้ บริการศูนย์การค้า (ยกเว้นโซนร้ านอาหารและโรงหนัง ให้เปิดไว้ 70% จนกว่าลูกค้าจะกลับ)
• ในลานจอดรถ ปรับลดการเปิดไฟฟ้ าแสงสว่างในช่วงกลางวัน ตามช่วงเวลาให้สอดคล้องกั บสภาพแสงสว่างตามธรรมชาติ และปรับลดการเปิดไฟฟ้าแสงสว่ างในพื้นที่ลานจอดรถที่ไม่มีผู้ ใช้บริการ (ยกเว้นลานจอดที่จั ดไว้สำหรับลูกค้าโรงหนัง ให้เปิดไว้ 50% จนกว่าลูกค้าจะกลับ)
• รอบอาคาร เปิดระบบไฟฟ้าแสงสว่ างรอบอาคารหลัง 18.00 น. และปรับลดการเปิดไฟฟ้าหลังปิดศู นย์เท่าที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
3) ระบบลิฟท์และบันไดเลื่อน ปรั บลดการเปิดใช้ล่วงหน้าก่อนเปิ ดให้บริการ และปิดให้เร็วขึ้ นหลังปิดให้บริการศูนย์การค้า
4) ร่วมกันลดการใช้พลังงานในบริ ษัท ปรับลดการใช้ไฟฟ้าในช่ วงเวลาพักเที่ยง, ใช้บันไดขึ้น- ลงระหว่างชั้นแทนการใช้ลิฟท์ และเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ าและหลอดไฟประหยัดพลังงาน เป็นต้น
สำหรับแผนงานประหยัดพลังงานอย่ างยั่งยืนที่ดำเนินการมาอย่างต่ อเนื่อง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ได้เตรียมการติดตั้ง Solar Rooftop และ Solar Street Light อย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้ระบบอัจฉริยะ อย่าง Motion Sensor Switch สำหรับระบบไฟแสงสว่าง การติดตั้งฉนวนและฝ้าเสริมเพื่ อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร, เป ลี่ยน Chiller เป็นแบบ High Efficiency, ปรับปรุงประสิทธิ ภาพระบบ Pump และระบบของท่ อของการส่งน้ำเย็นของระบบแอร์, เปลี่ยน AHU. และเครื่องแอร์ ระบบ Split Type ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, ติดตั้งระบบ Air-Conditioning Temperature & Humidity, ติดตั้งเพิ่มเติ มและเปลี่ยน Motor เป็นแบบ Vari able Speed Drive (VSD), การออกแบบโดยใช้ แสงธรรมชาติภายในศูนย์ฯ ให้มากที่สุด ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขี ยวทั่วทั้งโครงการ รวมถึงพัฒนาศูนย์การค้าในรูปแบบ Eco-Friendly Mall ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิ ภาพและได้มาตรฐาน โดยก่อนหน้านี้ โครงการของเซ็นทรัลพัฒนาถึง 11 แห่งได้รับรางวัลอาคารประหยั ดพลังงาน MEA Energy Award จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 10 แห่งและอาคารสำนักงาน 1 แห่ง และเป็นบริษัทอสังหาฯ หนึ่งเดียวในไทยที่เป็นสมาชิกดั ชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และ DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เ ป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่ นของเราที่ได้ตั้งเป้าเดินหน้ าสู่การเป็นองค์กร Net Zero ในปี 2050
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้ เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่ ที่มีคุณภาพเพื่อดูแลคนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้ าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่ อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน