จีนเตรียมที่จะใช้เงินมากถึง 1.5 ล้านล้านหยวนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาดและอาจทำให้เป้าหมาย GDP ของเศรษฐกิจจีนที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 5.5% ไม่เป็นไปตามเป้า
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีนเตรียมที่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เม็ดเงินสูงถึง 1.5 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 8.05 ล้านล้านบาท โดยจะให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถที่จะออกพันธบัตรพิเศษ เพื่อที่จะนำเม็ดเงินดังกล่าวไปเร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
ข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนล่าสุดนั้นบ่งชี้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2022 นี้อาจไม่ถึงเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ 5.5% ทำให้จีนต้องงัดกลยุทธ์ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมาอีกรอบ
ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนล่าสุดจาก Bloomberg
- การเดินทางด้วยเครื่องบินของประชาชนในไตรมาส 2 ลดลงถึง 62% เมื่อเทียบกับปี 2021
- ปริมาณการผลิตเหล็กในประเทศจีนลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปี 2021
- ยอดขายบ้านใน 50 เมืองของจีนล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมลดลงถึง 62.4% เมื่อเทียบกับปี 2021
- ยอดขายรถยนต์ของจีนตกลง 10% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
- ความเคลื่อนไหวของรถบรรทุกสินค้า ซึ่งส่งสินค้าระหว่างเมืองด้วยกัน ปริมาณความเคลื่อนไหวลดลง 20% เมื่อเทียบกับปี 2021
อย่างไรก็ดี ในการออกพันธบัตรพิเศษเพื่อโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลท้องถิ่นจะต้องได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลกลางก่อน ในปี 2020 รัฐบาลจีนได้ออกพันธบัตรพิเศษเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมากถึง 3.8 ล้านล้านหยวน ขณะที่ในปี 2021 และ 2022 อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านหยวน
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ชี้ว่าในไตรมาส 2 เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตเพียงแค่ 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา ขณะที่คาดการณ์ GDP ล่าสุดนั้นทาง ANZ สถาบันการเงินจากออสเตรเลียคาดว่าปี 2022 เศรษฐกิจจีนจะเติบโตแค่ 5% เท่านั้น ขณะที่ทาง UBS คาดว่าเศรษฐกิจจีนปี 2022 นี้จะเติบโตแค่ 3% เท่านั้น