เขตบริหารพิเศษ ‘มาเก๊า’ เมืองแห่งกาสิโน จนได้ชื่อว่า ลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออก กลับมาเปิดอีกครั้ง หลังจากปิดกาสิโนทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีในช่วงเดือนกรกฎาคมเพื่อพยายามคุมการระบาดของ COVID-19
มาเก๊าเป็นอดีตอาณานิคมของโปรตุเกส และเป็นดินแดนแห่งเดียวในจีนที่อนุญาตให้มีกาสิโน โดยอุตสาหกรรมเกมการพนันในมาเก๊านั้นมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ และใหญ่แซงหน้า ลาสเวกัส เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่มาเก๊าถูกปิดเพื่อสกัดการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ รายได้จากการเล่นพนันแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
โดยรายรับจากการเล่นเกมการพนันโดยรวมลดลงเหลือ 49 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกในปี 2009 ตามรายงานของสำนักงานตรวจสอบและประสานงานการเล่นเกมของเมือง โดย Bloomberg คาดว่ารายได้ดังกล่าวลดลงถึง 98% จากระดับก่อนเกิดโรคระบาด อย่างไรก็ตาม รายได้ที่หายไม่ได้มีสาเหตุแค่จาก COVID-19 แต่ยังมาจากการปราบปรามการทุจริตที่รัฐบาลจีนกำกับอีกด้วย
ย้อนไปช่วงเดือนกรกฎาคมที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 กว่า 1,500 ราย ส่งผลให้กาสิโนในมาเก๊าต้องปิดตัวลงเป็นเวลา 10 วัน จากนั้นทั้งเมืองก็ถูกปิดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ของจีน บริการสาธารณะและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ถูกระงับ และผู้อยู่อาศัยไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ยกเว้นต้องทำการทดสอบโควิดหรือซื้อสิ่งของจำเป็น แต่ข้อจำกัดทั้งหมดจะถูกยกเลิกในวันนี้ เนื่องจาก 9 วันที่ผ่านมา มาเก๊าไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่
โดยหน่วยงานอย่างเป็นทางการจะกลับมาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะแสดงผลการทดสอบโควิดเป็นลบจาก 72 ชั่วโมงก่อนหน้า แม้จะกลับมาเปิดเมืองและกาสิโนอีกครั้ง แต่ก็ใช้ว่าจะกลับไปสู่การเติบโตในระดับเดิม เพราะแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดคือ คนจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ปัจจุบันการเดินทางทั้งจากชาวจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังทำได้ไม่สะดวกนัก เนื่องจากมาตรการ Zero Covid ที่ต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน
ทั้งนี้ เมืองมาเก๊าเพิ่งเริ่มกระบวนการประมูลใบอนุญาตการเล่นเกม 6 ใบหลังจากการปฏิรูปกฎหมายเพื่อลดระยะเวลาสัมปทานจาก 20 ปีเป็น 10 ปีและเพื่อเพิ่มความเป็นเจ้าของในท้องถิ่นและการกำกับดูแลของรัฐบาล