ดิสนีย์ (Disney) เคยออกมาประกาศเมื่อช่วงเดือนมีนาคมว่าบริการสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ จะเพิ่มแพ็กเกจแบบมีโฆษณาแทรกในราคาประหยัด ล่าสุด ดิสนีย์ก็ประกาศว่าจะเริ่มเพิ่มแพ็กเกจดังกล่าวในช่วงเดือนธันวาคม เริ่มจากใน อเมริกา นอกจากนี้จะขึ้นราคาแพ็กเกจปกติ เพื่อเพิ่มกำไรให้บริษัท เพราะแม้ฐานผู้ใช้จะเติบโต แต่ต้นทุนการผลิตคอนเทนต์ที่สูง
ดิสนีย์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมขึ้นราคาบริการสตรีมมิ่ง Disney+ โดยเพิ่มจาก 6.99 ดอลลาร์ เป็น 10.99 ดอลลาร์ แต่ก็จะเพิ่มแพ็กเกจราคาประหยัดที่มีโฆษณาแทรกในราคา 7.99 ดอลลาร์ โดยแพ็กเกจดังกล่าวจะเริ่มให้บริการในวันที่ 8 ธันวาคม เฉพาะในสหรัฐอเมริกาก่อน
ส่วนราคาบริการสตรีมมิ่งของ Hulu จะปรับจาก 12.99 ดอลลาร์ เป็น 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน มีผล 10 ตุลาคม ส่วนแพ็กเกจโฆษณาจะปรับจาก 6.99 ดอลลาร์ เป็น 7.99 ดอลลาร์ ส่วน ESPN+ จะขึ้นราคา 43% เป็น 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
แม้ว่าจำนวนสมาชิกใหม่ของบริการสตรีมมิ่งจะมีถึง 15 ล้านราย ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ถึง 5 ล้านราย แต่ที่ดิสนีย์ต้องขึ้นราคาก็สะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการสตรีมมิ่งของดิสนีย์ Disney+, Hulu และ ESPN+ ซึ่งรวมแล้วบริษัท ขาดทุนถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 300 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อผู้ใช้สำหรับ Disney+ ลดลง 5% สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
โดยรวมแล้ว ไตรมาสที่ผ่านมามีรายได้ 2.15 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากฝั่งสวนสนุก และสินค้าต่าง ๆ เติบโต 72% มีรายได้รวม 7.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนสมาชิกของบริการสตรีมมิ่งทั้งหมดของดิสนีย์ (Disney+, ESPN+ และ Hulu) มีสมาชิกรวมถึง 221 ล้านคน แค่เฉพาะ Disney+ มีสมาชิกถึง 152.1 ล้านราย โดยดิสนีย์ตั้งเป้าที่จะเพิ่มเป็น 230-260 ล้านราย ภายในปี 2024