ภูมิ ศิรประภาศิริ มาปั่นจักรยานกันเถอะ

“มาปั่นจักรยานกันเถอะ” คงเป็นประโยคที่ ภูมิ ศิรประภาศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทบุญ พร็อพเพอร์ตี้และนักกิจกรรมร่วมรณรงค์ให้คนหันมาขี่จักรยาน อยากบอกกับใครต่อใครเพื่อให้หันมาใช้จักรยานในการเดินทางในกรุงเทพฯ แทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว

ชีวิตบนหลังอานจักรยานของ “ภูมิ” หนุ่มนักเศรษศาสตร์และบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เริ่มขึ้นเมื่อบินไปศึกษาต่อปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนับจากนั้นจักรยานก็กลายเป็นทางเลือกของเขาจนถึงทุกวันนี้

หลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ภูมิเข้าเรียนต่อปริญญาโทบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยดุ๊ก ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ จักรยานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดปั่นไปเรียนและท่องเที่ยวไปในตัว แม้กระทั่งเมื่อเรียนจบไปทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่วอชิงตันดีซี การขี่จักรยานก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่

“พอมาทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในวิชิงตัน ดีซี เพื่อนๆที่ทำงานเขาก็ปั่นจักรยานมาทำงานกัน คนในเมือง ที่เป็นคนรุ่นใหม่เขาก็ปั่นกัน ก็เลยติดนิสัยขี่จักรยานมาตลอด”

เมื่อกลับมาทำงานเมืองไทย อากาศร้อน แถมรถราบนถนนขับขี่กันน่ากลัว จักรยานที่นำกลับมาก็เลยต้องเก็บใส่กล่องเลิกใช้จักรยานไปพักใหญ่ จนได้มาเข้าสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย การออกทริปท่องเที่ยวในย่านเก่าๆ ในกรุงเทพฯ ที่มีทั้งผู้อาวุโส คนเกษียณอายุไปจนถึงวัยเด็ก ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ออกกำลังกายและความเพลิดเพลิน ภูมิจึงเลือกหวนสู่โลกจักรยานอีกครั้ง เมื่อเห็นแล้วว่า ไม่ว่าถนนกรุงเทพฯ หรือเมืองไหนก็ปั่นจักรยานได้เหมือนกัน หากรู้จักการปั่นอย่างถูกวิธี

“การที่ปั่นในกรุงเทพฯ ใช้ความระวัง รู้เขารู้เรา ไม่ได้ขี่ทุกที่ ที่ไหนอันตราย เช่น บนถนนที่รถวิ่งเร็ว หรือไปขี่ในจุดที่เขามองไม่เห็นเรา ถ้าจะกลับรถก็ควรใช้ทางม้าลาย หรือไม่ก็ควรใช้สะพานลอย ดูข้างนอกอาจรู้สึกว่าอันตราย แต่ถ้าได้ลองปั่นแล้ว จะรู้สึกปลอดภัยกว่าซ้อนมอเตอร์ไซค์อีก”

ทุกวันนี้ภูมิเลือกขี่จักรยานจากบ้านที่นวมินทร์ไปทำงานที่ออฟฟิศบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่เป็นประจำ ด้วยระยะทาง 14 กิโลเมตร ใช้เวลา 35 นาทีก็ถึงที่ทำงาน ข้อดี คือได้ทั้งออกกำลังกาย กำหนดเวลาเดินทางแน่นอน ไม่ต้องเจอปัญหารถติด ได้ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่ต้องปล่อยมลพิษ จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเมื่อจำเป็นเท่านั้น หรือไม่ก็ใช้บริการขนส่งมวลชนแทน

เมื่อเห็นถึงข้อดีหลายอย่าง ภูมิ จึงเข้าร่วมทำกิจกรรมกับสมาคม และหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนขี่จักรยาน เช่น สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย กลุ่มจักรยานจามจุรีสแควร์ มูลนิธิโลกสีเขียว และยังได้ร่วมก่อตั้งบางกอกไบซิเคิลแคมเปญรณรงค์ในเฟซบุ๊ก เชื่อมโยงผู้ใช้จักรยานทั้งมือเก่าและมือใหม่แลกเปลี่ยนความรู้ และเป็นช่องทางรวบรวมข้อมูลนำเสนอต่อหน่วยงานรัฐ อย่างกรุงเทพมหานคร ผลักดันให้รัฐเห็นความสำคัญกับขี่จักรยานมากขึ้น

ภูมิบอกว่า เขาไม่หวังว่าเมืองไทยจะต้องมีเส้นทางจักรยานดีๆ เหมือนในเมืองนอก เพราะหลายเมืองก็ไม่มีทางจักรยาน แต่การขี่จักรยานก็เป็นเรื่องปกติที่ทำได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้น คือ ขอให้จักรยานได้เป็นส่วนหนึ่งในท้องถนนที่ขี่ได้ปลอดภัย

“สิ่งที่ต้องผลักดันคือ การเพิ่มพลเมืองจักรยาน เพราะยิ่งมีคนขี่จักรยานมากขึ้น การขี่ก็ยิ่งปลอดภัย ถ้าเพิ่มจำนวนคนขี่จักรยาน ยิ่งคนเห็นคนขี่จักรยานมากขึ้น อุบัติเหตุจะลดลงตามไปด้วย” นี่คือความหวังของภูมิ

    ขี่บนถนนยังไงให้ปลอดภัย

  1. เมาไม่ปั่น
  2. ปั่นกลางคืนต้องติดไฟที่จักรยาน
  3. ใส่หมวก
  4. ไม่ปั่นย้อนศร