สามปีก่อน กันตพัฒน์ สิริเกียรติยศ และ มณฑล จิรา เทรนด์เซตเตอร์ระดับต้นๆ ของไทย ได้ร่วมกันสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ของจักรยานฟิกซ์เกียร์ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ภายใต้ยูอาร์แอล BKKFIXED.com เพียงเพื่อต้องการรวบรวม “รี้พลคนคอฟิกซ์” ที่มีอยู่น้อยนิดในขณะนั้น ให้ได้มีโอกาสมาปั่น มาแชร์ประสบการณ์ และโชว์ท่า (Trick) ของตัวเองด้วยกัน
“ตอนนั้นผมเริ่มจากความชอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ ไม่ได้คิดว่าจะมาทำธุรกิจด้านนี้ พอดีผมมีเพื่อนชาวฮ่องกงชื่อ Brian Fu เขาชอบฟิกซ์เกียร์มากๆ อยากให้คนปั่นกันเยอะๆ เลยสร้างเว็บ HKFIXED จนได้รับความนิยมที่สุดในฮ่องกงเลยตอนนี้ ผมกับพี่เจก็เลยเอาบ้าง ฮ่องกงมี HKFIXED กรุงเทพฯ ก็น่าจะมี BKKFIXED ตอนรวมกลุ่มปั่นทีแรกมีสมาชิกแค่ 3-4 คน เอง จักรยานคันแรกยี่ห้อ KHS ผมก็ซื้อต่อมาจากพี่เจ”
จากปี 2008 ที่ BKKFIXED มีสมาชิก 30-40 คน จนถึงปีที่แล้วมีแฟนคลับขยับเป็น 2,000 และกว่า 3,000 คนในครึ่งปีนี้ แสดงถึงความสำเร็จของฟิกซ์เกียร์ในฐานะชนวนเหตุแห่งความนิยมในจักรยานของเมืองไทย “สามปีผ่านไปเราก็ยังคงจัดกิจกรรมเหมือนเดิมครับ รูปแบบการแข่งขันก็ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ มีคนนำจักรยานฟิกซ์เกียร์มาเล่นท่า (Trick) กันเยอะขึ้นมาก เพราะรูปทรงของจักรยานเปลี่ยนไปให้คล้ายจักรยาน BMX มากขึ้น เหมือน BMX คันใหญ่ที่ปั่นฟรีถอยหลังไม่ได้ แต่เล่นท่าได้ ทำให้คนที่เล่น BMX อยู่นิยมมาเล่นฟิกซ์เกียร์กัน กิจกรรมสาย Trick ก็เลยมีมารองรับมากขึ้น”
“โดยส่วนตัวผมก็คิดว่าเสน่ห์ของฟิกซ์เกียร์แบบเดิมๆ ที่เป็นรถสำหรับ Bike Messenger เกียร์เดียว พังยาก จอดตามเสาหรือถังขยะก็ได้ มันค่อยๆ หายไป บางคนปั่น BMX มานานไม่ได้เข้าแข่ง ไม่มีสปอนเซอร์ พอเปลี่ยนมาปั่นฟิกซ์เกียร์ ทีนี้หาสปอนเซอร์ได้เลย”
“ส่วนการแข่งแรลลี่ Bangkok Fixed Gear Skid สำหรับคนปั่นสาย Track เราก็ยังจัดปีละครั้งอยู่ครับ ผมก็จำลองมาจากการแข่ง Bike Messenger ที่อเมริกา ซึ่งเขาใช้ฟิกซ์เกียร์ในการส่งเอกสาร ผู้เข้าแข่งขันต้องเก็บ Checkpoint ในแต่ละจุดที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ แต่ต้องคำนวณว่าจะไปที่จุดไหนก่อน เพราะถนนบางเส้นอาจจะรถติด ต้องขึ้นฟุตบาท ต้องมีย้อนศรบ้าง เรียกว่าเป็นการผจญภัยไปในตัว”
ช่วงแรกๆ กันตพัฒน์ต้องอาศัยสปอนเซอร์ชาวต่างชาติที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมจักรยานมาช่วยสนับสนุนการจัดงาน “ช่วงแรกๆ ยากหน่อยครับ แต่เดี๋ยวนี้มีตัวแทนจำหน่ายจักรยานในประเทศไทยเยอะขึ้นมาก ก็เลยขอสปอนเซอร์ไทยได้ง่ายขึ้นแล้ว ร้านเสื้อผ้า ร้านตุ๊กตาก็มี” ผู้จัดรายแรกเล่าพร้อมรอยยิ้ม ตอนนี้จึงเรียกได้ว่าแบรนด์ไทยแบรนด์ไหนอยากได้ใจตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์อินเทรนด์ก็สามารถเข้าทางฟิกซ์เกียร์ได้
ภายในร้านเสื้อผ้า Sneaka Villa ย่านสยามสแควร์ของกันตพัฒน์ นอกจากจะมีฟิกซ์เกียร์ในฐานะไอคอนแห่ง Street Fashion มาช่วยตกแต่งหน้าร้านแล้ว เขายังผลิตกระเป๋า Bike Messenger ขึ้นภายใต้แบรนด์ของตัวเอง “ผมเคยเอาล้อกับเฟืองมาวางขาย เพราะเห็นว่าสยามเป็นย่านที่มีวัยรุ่น มีคนปั่นฟิกซ์เกียร์เยอะ แต่จริงๆ แล้วคนเล่นจักรยาน เวลาเขาจะซื้ออะไหล่ เขาก็จะไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือไม่ก็ซื้อจากเว็บ เราเป็นร้านเสื้อผ้าอยู่แล้ว เลยเปลี่ยนมาขายสินค้าแฟชั่นแทน อย่างเสื้อลายฟิกซ์เกียร์ กระเป๋าสำหรับ Bike Messenger เพราะพวกยี่ห้อดังๆ ของเมืองนอกอย่าง R.E.Load, Tusk, Chrome, Crumpler นี่จะมีราคาสูงมาก ราวๆ 8,000 บาทได้ ผมก็เลยทำเองให้คนไทยได้ใช้ของถูกลง ตั้งราคาขายอยู่ที่ใบละพันกว่าบาทเอง”
“Fixed Gear เป็นคอมมิวนิตี้ที่น่ารักนะ เหมือนคนที่อยากรู้อยากเห็น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา คนปั่นเป็นวัยรุ่นเยอะเพราะราคาไม่แพงแล้วเดี๋ยวนี้ ไม่ถึงหมื่นก็มีครับ ผมคิดว่าช่วง 3-4 ปีนี้กระแส fix gear จะยังแรงต่อไปอีก เพราะจักรยานก็เป็นอุปกรณ์ทางแฟชั่นอย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ” ผู้นำแห่งสตรีทแฟชั่นยืนยัน
