“Conicle” เปิดบ้าน มุ่งสร้าง Solution การเรียนรู้แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด Everyday Learning Experience เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับองค์กร พร้อมต่อยอด HRTech สู่ PeopleTech รองรับเทรนด์ Lifelong Learning

“Conicle” สตาร์ทอัพ Series A สัญชาติไทย ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันด้านการเรียนรู้สำหรับองค์กร เดินหน้าพลิกโฉมโมเดลแห่งการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากรยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้าง Solution การเรียนรู้แบบครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรและบุคคลทั่วไป พร้อมสร้างน่านน้ำธุรกิจใหม่จาก HRTech ต่อยอดสู่ eopleTech ตั้งเป้าเติบโต 10 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า

คุณปูน – นกรณ์ พฤกษ์พิพัฒน์เมธ CEO & Co-Founder, Conicle หรือ บริษัท โคนิเคิล จำกัด กล่าวว่า ในอนาคตการเรียนรู้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ที่สำคัญการเรียนรู้จะต้องเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยิ่งโตแบบก้าวกระโดดหลังเกิดเหตุการณ์โรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ  Conicle ที่เติบโตเท่าตัวในทุกๆ ปี ตลอด 8 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

“ปัจจัยที่ทำให้ Conicle ประสบความสำเร็จตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เพราะเราเป็นผู้ให้บริการ Learning Platform  และ People Transformation Solution ที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แนวใหม่ ภายใต้แนวคิด Conicle Everyday Learning Experience เพราะเราเชื่อว่าการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ดี ต้องเกิดจากการเรียนที่เข้าถึงง่าย สนุก และไม่น่าเบื่อ เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับกับชุดความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ามุ่งไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้หรือ Learning Organization”

จุดแข็งของ Conicle คือเป็นรายเดียวในตลาดที่นำเสนอ Total Learning Solutions เจาะกลุ่ม B2B ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กร โดยครอบคลุม 3 บริการ ได้แก่

  1. แพลตฟอร์มการเรียนรู้ (Learning Experience Platform) เป็น Software as a Service ให้ลูกค้าองค์กรสามารถบริหารจัดการด้านการเรียนรู้ให้พนักงานภายในองค์กรได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี ง่าย สนุก และไม่น่าเบื่อ นอกจากทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้ที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ยังมีระบบติดตามความสำเร็จจากการเรียนและวัดผลการเรียนรู้อีกด้วย
  2. คอนเทนต์การเรียนรู้ (Learning Experience Content) ในหลากหลายช่องทางผสมผลานทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ (Blended Learning Program) โดยทำงานร่วมกับ Content Providers กว่า 60 ราย ประกอบด้วย วิทยากร ผู้บริหารระดับสูง สถาบัน อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านครอบคลุมลักษณะงานในตำแหน่งต่างๆ หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งออกแบบบนพื้นฐานของ Framework การออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในการพัฒนาบุคลากร ตามบริบทของแต่ละองค์กรรายอุตสาหกรรม ความต้องการเฉพาะของแผนกหรือเป้าหมายการเรียนรู้รายบุคคล
  3. บริการที่ปรึกษาให้คำแนะนำและออกแบบการเรียนรู้ (Learning Experience Service) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีตามความต้องการขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายการเรียนรู้ อาทิ การทำ Change Management, Competency-Base Development, Learning Engagement, Test and Assessment Design, Internal Communication, Content Design และ Production Service เป็นต้น

“เราเน้นทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจว่าแพลตฟอร์มของเรา จะเข้าไปพัฒนาหรือเสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าได้จริง หรือหาแนวทางให้ลูกค้าใช้แพลตฟอร์มของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด” คุณปูน – นกรณ์ กล่าวเสริม

คุณไต้ฝุ่น – นภสินธุ์ เสือดี Product Excellence Lead, Conicle กล่าวถึง Conicle ได้ออกแบบแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีรูปแบบสวยงาม โดยคำนึงถึงการใช้งานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งคลังคอนเทนต์ และแผนการเรียนที่เหมาะกับ Career Path แบบ Personalize Learning ให้กับพนักงานที่เป็นผู้เรียน และสามารถวัดผลการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลผ่านระบบ Dashboard Analytics ที่ทำให้ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ HR หรือหัวหน้างาน สามารถวัด Return on Development ซึ่งเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP – Individual Development Plan) เพิ่มเติมต่อไปในอนาคต

คุณดิน – อนพัทย์ วิมลประภาพร CTO & Co-Founder, Conicle กล่าวเสริมว่า ในขณะเดียวกันกับที่ Conicle ได้ออกแบบระบบการเรียนรู้ที่ใช้งานได้ง่ายให้แก่ผู้เรียนและผู้ใช้งานระบบแล้ว ก็ได้ออกแบบ Platform Architecture ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ ผสานกับหลักการของ Data Driven ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลผลการเรียนรู้ของพนักงานเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อยอด นอกจากนี้ Conicle ยังได้มีการใช้ระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของข้อมูลบนแพลตฟอร์ม และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้เรียนและขององค์กรด้วยเช่นกัน

คุณหมี – มนัส มกรากุล Academy Lead, Conicle กล่าวว่า เรามุ่งที่จะพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้ตรงกับโจทย์ของความต้องการขององค์กรได้อย่างครอบคลุม ซึ่งโจทย์ก็จะแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจประกัน ธุรกิจโทรคมนาคม หรือธุรกิจพลังงาน โดยสามารถออกแบบ Journey การเรียนรู้ตามโจทย์ที่มีความหลากหลายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้มี Competency ที่ตอบโจทย์ในแผนกนั้นๆ หรือการพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมเพื่อการเติบโตในสายงาน หรือ Upskill / Reskill ให้เหมาะกับความต้องการขององค์กรตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมา Conicle ได้เปิดตัวบริการสำหรับกลุ่ม B2C ภายใต้ชื่อ ConicleX ให้ลูกค้าทั่วไปที่สนใจ สามารถสมัครเรียนตามคอนเทนต์ที่ตนเองสนใจผ่าน www.ConicleX.com

Conicle Team กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน Conicle มีลูกค้าองค์กรกว่า 100 บริษัท จากหลายอุตสาหกรรมทั้งโทรคมนาคม พลังงาน ธนาคาร และธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ มีผู้ใช้งานรวมประมาณ 1 ล้านคน โดยแต่ละเดือนจะมี Active User มากถึง 3 แสนราย ที่สำคัญตลอด 8 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง เรามีคนที่เข้ามาเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มและคอนเทนต์ของเรา มากกว่า 10 ล้านชั่วโมงการเรียนรู้ ซึ่ง Conicle รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการเรียนรู้และการพัฒนา ‘คน’ ให้กับองค์กรและสังคมไทย

สำหรับเป้าหมายการทำงานในอีก 3-5 ปีข้างหน้า คุณปูน – นกรณ์ กล่าวว่า Conicle มุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด Lifelong Learning โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารองรับ Mega Trend ดังกล่าว โดยตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำตลาดลูกค้าองค์กรภายในประเทศ และขยายสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป (Mass) ได้อย่างเต็มตัวในอนาคต จากนั้นวางแผนที่จะ Scale up ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีดีมานด์สูงกว่าประเทศไทย โดยคาดว่าภายใน 5 ปี Conicle จะเติบโตเพิ่มอีก 10 เท่า จากรายได้ในปีที่ผ่านมา 100 ล้านบาท

“Lifelong Learning เป็นตลาดที่ใหญ่มาก และเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ไม่ได้เข้าไปทดแทนตลาดเก่า เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแม้แต่คนที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีไปแล้ว ก็ยังต้องกลับมา Up-skill / Re-skill ตลอดเวลาเช่นกัน ในอนาคตเรามองเห็นโอกาสที่จะสร้างน่านน้ำธุรกิจใหม่ได้อีกมากมาย จาก HRTech ต่อยอดเป็น PeopleTech โดยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปยกระดับผู้คนในกลุ่มวัยทำงาน” คุณปูน – นกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย