บราเดอร์ เสริมอัตราการเติบโตกลุ่มธุรกิจ non-print ในไทย ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์
ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสั่งนำเข้าเครื่องเสียง BMB 24 รุ่นมาจำหน่ายในไทยอย่างครบวงจร เตรียมพร้อมขยายฐานสู่กลุ่มลู
กค้าใหม่ มั่นใจกำลังซื้อยังมีอยู่มากหลั
งโควิดแช่แข็งธุรกิจบันเทิง ท่องเที่ยว และเมกกะโปรเจคใหม่ๆ ในไทยมานานกว่า 2 ปี
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ชุดเครื่องเสียง BMB ได้เข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว และเป็นที่ยอมรับอย่างมากเรื่องคุณภาพเสียง การสานต่อความสำเร็จจากยุคแรกสู่ยุคปัจจุบันจึงเป็นภารกิจที่บราเดอร์มุ่งมั่นที่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าในไทยให้กว้างยิ่งขึ้น โดยการรุกตลาดอย่างหนักในครั้งนี้ของบราเดอร์ จะทำให้ BMB กลับมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมด้านระบบเครื่องเสียงในประเทศไทยได้อีกครั้ง
“ในประเทศญี่ปุ่น บราเดอร์ มีความแข็งแกร่งอย่างมากด้านธุ
รกิจระบบเครื่องเสียง และหนึ่งในความสำเร็จจนก้าวสู่
การเป็นผู้นำตลาดคือการสร้
างสรรค์ธุรกิจเครือข่
ายคาราโอเกะ (Joysound) โดยนำสินค้าแม่เหล็กอย่
างระบบเครื่องเสียง BMB มาสร้างรายได้ในกลุ่ม non-print ให้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายธีรวุธ กล่าวถึงความสำเร็จของเครื่
องเสียง BMB ในแดนปลาดิบ “ในประเทศไทยบราเดอร์เชื่อมั่
นว่าธุรกิจเครื่องเสียงยังมี
โอกาสเติบโตได้เพราะพื้นฐานไลฟ์
สไตล์ของคนไทยนิยมเรื่องกิ
จกรรมความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะด้านดนตรี นอกจากนี้เครื่องเสียงยังถูกใช้
เพื่อกิจกรรมในด้านอื่นๆ อย่างหลากหลาย ทั้งด้านการจัดการประชุม ด้านธุรกิจร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งกิ
จกรรมการแสดงดนตรี เครื่องเสียงก็เข้าไปมี
บทบาทสำคัญเช่นกัน”
ปัจจุบัน บราเดอร์ ประเทศไทย ได้นำระบบเครื่องเสียง BMB เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยครบทุกไลน์สินค้าเพื่อเตรียมพร้อมรุกตลาดอย่างครบวงจร ตามที่หลายฝ่ายคาดว่าตลาดกลุ่มดังกล่าวจะเริ่มกลับสู่สภาวะปกติตั้งแต่กลางไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไปหลังจากรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น “ช่วงปลายปี 2564 บราเดอร์ ประเทศไทยได้เริ่มขยายฐานลูกค้ากลุ่มเครื่องเสียง BMB จากกลุ่มลูกค้าครัวเรือนสู่กลุ่มธุรกิจองค์กร และด้วยคุณภาพและความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน ตลอดจนความพิถีพิถันในการพัฒนาคุณภาพต่อเนื่องกว่า 20 ปี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บราเดอร์เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้ในปีงบประมาณนี้อย่างแน่นอน โดยบราเดอร์กำหนดเป้าหมายไว้ว่าเครื่องเสียง BMB จะต้องเข้าไปอยู่ในทุกที่ที่มีบริบทด้านเสียงคุณภาพ ซึ่งยังมีอีกมากในปัจจุบัน” นายธีรวุธกล่าว
ด้านนายพงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขยายธุรกิจ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บราเดอร์มั่นใจว่าหลังโควิด-19 คลี่คลาย ภาพรวมธุรกิจต่างๆ ของตลาดโลกและในไทยจะกลับมาเป็นปกติ การระดมนำทัพสินค้ากลุ่มเครื่องเสียง BMB เข้ามาในครั้งนี้ จะเป็นจังหวะทางการตลาดครั้งสำคัญของบราเดอร์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้อย่างทันท่วงที โดยบราเดอร์ได้เพิ่มงบการตลาด เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และกลุ่มร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตลอดครึ่งปีหลังปีงบประมาณ 2565 นี้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับกลุ่มพรีเมี่ยร์พาร์ทเนอร์ในด้านภาพ เสียง และ content เพื่อนำเสนอ total solution ให้แก่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการระบบเครื่องเสียงเฉพาะด้านด้วยเช่นกัน
เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดนั้น นายพงษ์พันธ์ แสดงความเห็นว่า “ตลาดกลุ่มเครื่องเสี
ยงในประเทศไทย ณ ปัจจุบันนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเครื่องเสียงระดับพื้
นฐานที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้
าจากประเทศจีน ซึ่งมีราคาจำหน่ายที่ไม่สู
งมากนัก, กลุ่มเครื่องเสียงที่เริ่มเป็
นแบรนด์ที่ติดหูมากขึ้น ราคาก็จะอยู่ในระดับกลางๆ และกลุ่มเครื่องเสียงระดั
บไฮเอนด์ที่เน้นคุณภาพเสียงซึ่
งจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เน้นเจาะกลุ่ม นิชมาร์เก็ตที่เน้นฟังเครื่
องเสียงคุณภาพจริงๆ เท่านั้น ซึ่งการเข้ามาของบราเดอร์ในครั้
งนี้จะเน้นเจาะไปที่กลุ่มช่
วงกลางของตลาด โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสิ
นใจเลือกของกลุ่มลูกค้านั้น ประกอบด้วย ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ คุณภาพสินค้า และบริการหลังการขายที่เข้าถึ
งได้อย่างสะดวก ส่งผลให้บราเดอร์ได้คัดสรรตั
วแทนจำหน่ายพร้อมจัดคอร์สฝึ
กอบรม เพื่อช่วยให้ตัวแทนเหล่านั้
นสามารถตอบโจทย์ความต้
องการครอบคลุมทุกปัจจัยที่กล่
าวมา เพื่อให้ลูกค้าได้ระบบเครื่
องเสียงที่ตรงตามต้องการที่สุด โดยช่องทางการขายในปัจจุบันแบ่
งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. กลุ่มที่เชี่ยวชาญด้านเครื่
องเสียง รวมทั้งภาพและเสียงโดยเฉพาะ 2. กลุ่ม ที่ปรึกษาในรูปแบบ total solution เพื่อติดตั้งงานในแบบโปรเจค และ 3. กลุ่มร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกลุ่
มผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์ในปัจจุบั
น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่
มลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จริ
งของระบบเครื่องเสียง BMB บราเดอร์จึงได้พัฒนา BMB Concept Showroom ขึ้นเป็นแห่งแรกที่สำนักงานใหญ่ บราเดอร์ อาคารรสาทาวเวอร์ ชั้น 21 เพื่อให้ได้รับประสบการณ์
ตรงในแบบ Premium Real Sound จาก BMB”
เมื่อบราเดอร์นำเสนอคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับแก่กลุ่มผู้บริโภคในไทยแล้ว เชื่ออย่างยิ่งว่าจะสามารถทำให้ลูกค้าของกลุ่มตลาดในระดับพื้นฐานหันมาเปิดใจให้ BMB ได้ด้วยเช่นกัน “ความโดดเด่นที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของระบบเครื่องเสียง BMB คือ ความเป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีประวัติและความเชี่ยวชาญมายาวนาน จนได้รับการยกย่องจากทั่วโลกในด้านคุณภาพเสียงที่มีหัวใจหลักอยู่ที่ ‘การผลิตดอกลำโพง’ ด้วยกระดาษคุณภาพ ต้องใช้องค์ประกอบน้ำมีคุณภาพสูง จากแหล่งน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ใกล้ภูเขาไฟฟูจิและตรวจสอบคุณภาพเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญให้ได้มาตรฐานเดียวกันทุกชิ้น
โดยลำโพงในแต่ละรุ่นนั้น BMB ได้พัฒนาให้มีจุดเด่
นและคาแรคเตอร์ของเสียงที่แตกต่
างกัน ตอบสนอง สไตล์ ความชื่นชอบเฉพาะตน รวมทั้งขนาดของลำโพงและกำลังวั
ตต์ เพื่อให้ได้สุนทรียและคุณภาพเสี
ยงที่เหมาะสมกับทุกพื้นที่ด้
วยเอกลักษณ์ของเสียงเฉพาะตัว นอกจากนี้อุปกรณ์อื่นๆ ของระบบเครื่องเสียง BMB ยังได้รับการออกแบบมาเพื่
อยกระดับคุณภาพของเสียงดนตรี และเสียงร้อง โดยเฉพาะเสียงกลางที่คมชัด โดดเด่น และเสียงทุ้มที่สัมผัสได้ถึ
งคำว่า “Premium Real Sound” พร้อมกับจุดเด่นของ BMB มีระบบลดเสียงหวีด หอน (Anti-Feedback) ที่สำคัญคือการรับประกันสินค้
าที่รวมถึงดอกลำโพงเป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมมอบความสะดวกด้านบริการหลั
งการขายด้วยศูนย์บริการคุณภาพทั่
วประเทศ” นายกฤษฏภพ ศรีขาว ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ระบบเครื่
องเสียง BMB กล่าว
ทั้งนี้ ระบบเครื่องเสียง BMB 24 รุ่นที่บราเดอร์ ประเทศไทยนำเข้ามาจำหน่าย ประกอบด้วย เครื่องขยายเสียง, ลำโพง, ซาวน์โปรเซสเซอร์, ไมค์โครโฟนทั้งแบบสาย Dynamic Microphone และแบบไร้สาย Wireless Microphone
ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย BMB Premier Partner
หรือชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB : BMB Thailand
#brotherPRnews
สามารถชมข้อมูลบราเดอร์เพิ่มเติมได้ที่
https://www.brother.co.th/th-th
https://www.facebook.com/BrotherCommercialThailand/
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Brother Contact Center 0-2665-7777
Related