ที่ชั้น 3 สยามพารากอน ที่เคยเป็นร้านโทรศัพท์มือถือโนเกียกำลังจะกลายเป็นร้านแบล็กเบอรี่ หรือบีบี ร้านแรกในเอเชีย (Asia’s first BlackBerry) ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบีบีแจ้งว่าจะเปิดร้านพร้อม ๆ กับการเปิดตัวบีบีรุ่นใหม่ในปลายเดือนสิงหาคมนี้
เดิมพื้นที่ดังกล่าว มีเจมาร์ทซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเช่าพื้นที่จากสยามพารากอน รับบริหารร้านให้กับโนเกียมาหลายปี เมื่อโนเกียทำตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์น้อยลง เพราะต้องรอวินโดวส์โฟน จึงเลือกเลิกสัญญากับเจมาร์ท ขณะเดียวกัน บีบีกำลังมองหาทำเลเปิดร้าน จึงมาสวมแทนโนเกีย โดยได้รับความร่วมมือจากเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายบีบีในไทย
ต่อไปบริเวณดังกล่าวจะมีร้านบีบี ตรงกันข้ามเป็นร้าน iStudio ส่วนตรงกลางยังคงมีบูธโนเกีย ที่โนเกียเลือกปิดร้าน แต่ยังคงพื้นที่ Nokia Experience Studio ที่ออกแบบไว้แบบเปิดโล่ง ดูสบาย ๆ ซึ่งโนเกีย ยืนยันว่าการปิดร้าน ไม่ใช่เกิดจากยอดขายย่ำแย่จนต้องประหยัดต้นทุน แต่เป็นเพียงการปรับกลยุทธ์ช่องทางการจำหน่ายเท่านั้น
โนเกียมีแผนเปิดร้านใหม่ 8 แห่งทั่วประเทศ จากเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด 22 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการรุกตลาดกลางถึงล่าง อย่างเช่นการเปิดตัวและทุ่มงบแคมเปญไปกับโทรศัพท์มือถือ 2 ซิมในขณะนี้
ขณะที่บีบีทิ้งระยะห่างในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มานาน หลังปล่อย Curve 8520 ทำตลาดระดับกลางถึงล่างด้วยราคาถูก ในที่สุดบริษัท Research in Motion หรือ RIM เจ้าของแบรนด์บีบี จากแคนาดา ก็ตัดสินใจทุ่มลงทุน ตั้งสำนักงานและศูนย์ซ่อมในไทย ล่าสุดคือการสร้าง Customer Touch Point ผ่านร้านที่ถือว่าเป็นการลงทุนที่สูง (ที่สยามพารากอนมีอัตราค่าเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อตารางเมตร) เพราะไม่เพียงสมาร์ทโฟนระดับกลางที่บีบีจะทำตลาด แต่ยังมีแท็บเล็ต เพลย์บุ๊ก และเตรียมรุกรุ่นไฮเอนด์อีกรอบ
เวลานี้ร้านที่สยามพารากอนคือคำตอบสำหรับบีบี แต่สำหรับโนเกียคำตอบได้เปลี่ยนไปแล้ว