การศึกษาระดับโลกจาก Ciena ได้ทำการสำรวจถึง นักธุรกิจ 15,000 คนทั่วโลก ว่ามีความพร้อมแค่ไหนที่จะทำงานร่วมกันในโลกเสมือนจริงหรือ Metaverse ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่หลังโลกเผชิญกับการระบาดของ COVID-19
จากผลการวิจัยพบว่า 96% ของผู้ตอบแบบสำรวจเห็นคุณค่าของการประชุมเสมือนจริง และมากกว่า 78% กล่าวว่าพวกเขาจะเข้าร่วมกับ Metaverse หรือใน ประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น เพื่อทำกิจกรรม อาทิ การเข้าร่วมประชุม
นอกจากนี้ 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกยืนยันว่าพวกเขาจะ รู้สึกสบายใจ ที่จะจัดการประชุมในพื้นที่เสมือนจริง อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยของบางประเทศนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก อาทิ อินเดียที่สูงถึง 97% และในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 94% ส่วนญี่ปุ่นกลับมีเพียง 57%
ทั้งนี้ จากผลการวิจัย ระบุว่า 2 ประโยชน์สูงสุดของการประชุมเสมือนคือ การทำงานร่วมกัน และ ความสะดวกที่ดีขึ้นในระดับโลก เมื่อพูดถึงการเลือกอวาตาร์สำหรับโลกเสมือนจริง โดย 35% จะเลือกอวาตาร์ที่สะท้อนตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนอีก 22% จะเลือกเวอร์ชันในอุดมคติ และมีเพียง 10% เท่านั้นที่จะเลือก บุคคลที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้ 71% มองว่า Metaverse จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปฏิบัติในการทำงานที่มีอยู่จริง และ 40% คิดว่าธุรกิจของพวกเขาจะย้ายจากสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันแบบดั้งเดิม ไปเป็นแพลตฟอร์มที่สมจริงในอีกสองปีข้างหน้า
แม้จะมีความสนใจเพิ่มขึ้นในหมู่คนทำงาน แต่อุปสรรคในการใช้งาน Metaverse ที่คนยังกลัวคือ ความน่าเชื่อถือ ความพร้อมของเครือข่าย และมองว่าแพลตฟอร์ม Metaverse ยังไม่พร้อมใช้งานในวงกว้าง
“เห็นได้ชัดว่าโลกธุรกิจพร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้ Metaverse และเริ่มใช้สภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับการทำงานร่วมกัน แต่ความน่าเชื่อถือ และเครือข่ายอาจถูกมองว่าเป็นอุปสรรคในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ให้บริการทราบดีว่ามีความต้องการ ดังนั้น ต้องลงทุนและทดสอบเพื่อทำให้เครือข่ายเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับผู้ใช้มากขึ้น” Steve Alexander รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Ciena กล่าว