สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาอาหารและพลังงานทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาสภาพอากาศที่เลวร้าย ทุกสาเหตุส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้วิกฤตอื่น ๆ ทวีความรุนแรงขึ้น เช่น ระดับหนี้ที่สูงขึ้นของประเทศที่มีรายได้ต่ำ
Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า IMF กำลังลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกของปี 2023 อีกครั้ง โดยคาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกจะลดลง 4 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2026
“สิ่งต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้น โดยเฉพาะการรุกรานยูเครนของรัสเซียซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ได้เปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจของ IMF ไปอย่างมาก ส่งผลให้ความเสี่ยงจากภาวะถดถอยกำลังเพิ่มสูงขึ้น”
Georgieva กล่าวว่า IMF ประมาณการว่าประเทศต่าง ๆ ที่คิดเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเห็นการหดตัวทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 2 ไตรมาสติดต่อกันในปีนี้หรือปีหน้า และเสริมว่าสถาบันได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทั่วโลกไปแล้ว 3 ครั้ง ตอนนี้คาดว่า -3.2% ในปี 2022 และ –2.9% ในปี 2023
ทั้งนี้ การคาดการณ์ของ IMF ที่เยือกเย็นเกิดขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยหวังว่าจะสามารถบรรเทาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถือเป็นกลุ่มที่ใช้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือลดอัตราเงินเฟ้อ และธนาคารกลางจากเอเชียไปยังอังกฤษได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ รวมถึงการที่ OPEC+ ตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันลง เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่ตกต่ำ