Malee เอาความสวยใส่น้ำผลไม้

ตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มยังได้คงรับอานิสงส์จากกระแสรักสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับพรีเมียมที่ผู้บริโภคพร้อมเปิดรับสินค้าใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการ และน้ำผลไม้ต้องตอบสนองผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม ดื่มเพื่อสุขภาพเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของน้ำผลไม้อยู่แล้ว แต่การเพิ่มเรื่องผิวพรรณสดใสเข้ามาในน้ำผลไม้ ก็เป็นจุดหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องการเช่นกัน

น้ำผลไม้พร้อมดื่มแบรนด์ มาลี  ก็ใช้เรื่องนี้มาพัฒนาสินค้าตลาดบนของตัวเอง ปทุมรัตน์ เพียรชอบ ผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลี สามพราน จำกัด บอกว่า  ตลาดน้ำผลไม้ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกระแสของคนรักสุขภาพที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ขายในปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 20% และมาลีมีส่วนแบ่งตลาดถึง 23%

บริษัทจึงได้ทำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี ทั้งในส่วนการจัดกิจกรรมทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางกับผู้บริโภค ปรับโฉมแพ็กเกจจิ้งใหม่ให้มีความทันสมัย และสดใส การออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคหันมาจดจำและบริโภคแบรนด์มาลีมากยิ่งขึ้น น้ำแอปเปิลเขียวแกรนนี่สมิธ และน้ำองุ่นขาว จึงเป็นน้ำผลไม้ระดับพรีเมียม 2 ตัวล่าสุดที่ออกมาประเดิมภาพลักษณ์ใหม่ของมาลี โดยมีจุดขายอยู่ที่สุขภาพและความงาม

ด้านสื่อสารการตลาดมาลีใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท จัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ เน้นทำการตลาดทั้งทางด้านAbove the line และด้าน Below the line และยังทำ CRM ผ่าน www.facebook.com/MaleeSociety และ  www.malee.co.th ด้วย

4 กลุ่มน้ำผลไม้

น้ำผลไม้พร้อมดื่ม มีการแบ่งประเภทตามความเข้มข้นของน้ำผลไม้ที่ใช้ผลิต เดิมแบ่งออกเป็น 3 ประเภทเท่านั้น แต่ภายหลังได้เพิ่มเข้ามาอีก 1 ประเภท  เพื่อความชัดเจนในการทำตลาด  และแบ่งกลุ่มผู้บริโภค  มาดูกันว่าทั้ง 4 กลุ่มจัดแบ่งกันอย่างไร

1. Premium Market น้ำผลไม้ 100% ราคาสูงที่สุด ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ
2. Medium Market  น้ำผลไม้ 40% ราคาปานกลาง กลุ่มผู้บริโภคต้องการสินค้าระดับบน แต่กำลังซื้อไม่ถึง
3. Economy Market น้ำผลไม้ 10-25% ราคาถูกใจกลุ่มแมส ที่ต้องการดื่มเพื่อดับกระหาย ไม่ได้มองเรื่องคุณประโยชน์ ตลาดกลุ่มนี้แข่งขันกันสูงมาก
4. Super Economy Market น้ำผลไม้  5% เป็นกลุ่มใหม่ที่ผู้ผลิตแบ่งออกมาใหม่ แข่งขันที่ราคาถูก และตลาดเริ่มเติบโตไล่หลังกลุ่มที่ 3