กลับมาอีกครั้งกับโครงการ GPSC Greenovation Startup Sandbox ในรอบ Final Pitching Day เพื่อเฟ้นหาทีมชนะเลิศนักพัฒนาธุรกิจรุ่นใหม่ด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. และ บริษัทในกลุ่ม GPSC ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด หรือ CHPP และ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด หรือ NUOVO PLUS ร่วมผลักดันนักคิดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันแรกจนมาถึงรอบสุดท้าย ในวันนี้ ทีมเข้าร่วมโครงการได้พัฒนาไอเดียนวัตกรรมขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาด ภายใต้โจทย์ “เราจะพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นได้อย่างไร โดยใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาดที่คุณสามารถเข้าถึงได้?” โดยได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจาก Mentor รวมทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop สุดเข้มข้น รับคำปรึกษา และต่อยอดไอเดียธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับเงินทุนรวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท เพื่อนำไปต่อยอดแผนงานและพัฒนาไอเดียธุรกิจ ในรอบ Final Pitching Day การนำเสนอผลงานครั้งสุดท้ายของทั้ง 3 ทีม ได้แก่ “ทีม ควายงาน” ผู้คิดค้น “BuffBox” เครื่องมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น ต้นแบบช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยของไทย “ทีม Onecharge” ที่ร่วมมือกับพันธมิตร มุ่งขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายการติดครอบคลุมทั่วประเทศ และ “ทีม Electron+” เจ้าของไอเดีย FTE (Flexible thermoelectric) Cooling in Automotive เทคโนโลยีการทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับโซลาร์เซลล์ ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์ไฟฟ้าแบบเฉพาะจุด
ดร.รสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับโครงการ GPSC Greenovation Startup Sandbox ถือเป็นโอกาสสำหรับน้องๆ ที่ยังเป็น Young Generation ที่มีไอเดียในเรื่องนวัตกรรมพลังงานสะอาด ความท้าทายของน้องๆ คือ เวลาเราคิด Project หรือคิดว่าเราจะช่วย Environment อย่างไร เราคิดอย่างเดียวก็ไม่เกิดอะไร แต่ถ้าเราลงมือทำได้ เราก็สามารถที่จะทำให้ความฝันเราเกิดเป็นความจริง ความท้าทายก็คือว่าแล้วการลงมือทำ จะต้องใช้งบประมาณเท่าไร นี่เป็นสิ่งที่ GPSC สามารถที่จะเสริมให้น้องๆ มีโอกาสในการที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ได้
เกณฑ์การตัดสินของเราประกอบไปด้วยหลายๆ องค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโจทย์ของงานว่าการพัฒนานั้นต้องสร้างความยั่งยืนอย่างไร ตอบสนองคุณค่าต่อเราและสังคมอย่างไรต่อไป ในแง่ของการพัฒนาต่อยอดในเชิงธุรกิจ ในเรื่องของความพร้อมของบุคลากรและทีมงานที่คณะกรรมการนำมาเป็นเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด ทั้ง 3 ทีมงาน ทำได้ดีทั้งสิ้น ความท้าทาย คือ เราต้องมาตัดสินน้องๆ Startup ต่างๆ ที่อาจจะยังไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนเลย เราพยายามจะเอาหลักเกณฑ์สักอันมาจับว่าใครที่เหมาะสมจะเป็นผู้ชนะ ตลอดระยะเวลาที่หลายๆ เดือนที่ทำงานร่วมกันกับน้องๆ มา ก็จะมีการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา ตรงไหนที่ทีมไหนยังขาดอยู่ ทางพี่ๆ ก็พยายามจะช่วยสนับสนุนเติมไปให้ หรือภาพของธุรกิจก็เราจะค่อยๆ Grooming น้องทุกคน พอมาถึงวันนี้ทุกคนมีภาพที่ครอบคลุมได้ทั้งหมดทุกมิติ อันนี้คือ Challenge คุณวัชรพงศ์ อินทะเคหะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการพาณิชย์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด หรือ CHPP (บริษัทในกลุ่ม GPSC ผู้พัฒนานวัตกรรมการจัดการพลังงานและสาธารณูปโภค) กล่าว
โดยทีมที่ทำผลงานได้ออกมาดีที่สุด สามารถคว้าตำแหน่งสุดยอดไอเดียนักพัฒนาธุรกิจรุ่นใหม่ด้านพลังงานไฟฟ้า คือทีม ELECTRON PLUS+ มาพร้อมผลงาน เทคโนโลยีการทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์ไฟฟ้าแบบ FTE cooling in Auto Motive หรือการทำความเย็นจาก Flexible thermoelectric ในยานยนต์ เฉพาะจุด ซึ่งสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในรถยนต์ EV ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทีม ELECTRON PLUS+ ผู้ชนะเลิศโครงการ GPSC Greenovation Startup Sandbox ได้เล่าถึง Pain Point ในการสร้างนวัตกรรมนี้ คือ มองการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่โฆษณาว่าวิ่งได้ 500 กิโลเมตร แต่จริงๆ แล้ว พอนำไปใช้งานแล้วได้ไม่ถึง อาจจะวิ่งได้แค่ 450 กิโลเมตร ดังนั้นจากตรงนี้เองเราก็เลยไปหาในส่วนของสาเหตุหลักๆ ก็มาจากแอร์ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ที่เป็นในส่วนของ Compressor นั่นเอง เราจึงต้องทำการแก้ปัญหาโดยที่เปลี่ยนระบบทำความเย็นใหม่โดยที่ไม่ต้องไปใช้ Compressor แล้วใช้เทคโนโลยีของเราเข้าไปแทน หนึ่งสิ่งถ้าเทียบกับตัว Compressor ที่เราได้พูดไปในส่วนของ Pain Point ตัวนั้นทำให้เกิดในส่วนของภาวะเรือนกระจก ภาวะโลกร้อน ซึ่งตัวเทคโนโลยีของเราไม่ได้ทำให้เกิดพวกนั้นเลย ของเราเป็น Green Technology พูดง่ายๆ เป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์กับโครงการนี้
GPSC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจไฟฟ้าจากนวัตกรรมพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน และยังแสวงหาแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสะอาดที่จะเป็นเทรนด์ที่สำคัญของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัลที่มีแนวโน้มการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น และต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และมีเป้าหมายเดียวกันที่จะเดินหน้าไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่ง GPSC กำหนดเป็นเป้าหมายหลักเพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กร Net Zero ภายในปี 2060
#GPSC #GPSCgroup #SmartEnergyForEvolvingLife #GreenovationStartupSandbox