ก็ยังถือเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก แม้ว่าปีนี้ ‘อีลอน มัสก์’ ซีอีโอของ Tesla และ เจ้าของ Twitter คนปัจจุบันได้สูญเสียความมั่งคั่งไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 ล้านล้านบาท เนื่องจากมูลค่าของ Tesla ลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี
นับตั้งแต่ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก โดยมีความมั่งคั่งรวมกว่า 3.4 แสนล้านดอลาร์สหรัฐ แต่ภายในปีเดียว อีลอน มัสก์ ต้องสูญเสียความมั่งคั่งของตัวเองรวม ๆ กว่า 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันมีความมั่งคั่งอยู่ที่ราว 194,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การสูญเสียของมัสก์นั้นเกิดจากหุ้นของ Tesla ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยล่าสุดหุ้น Tesla ร่วงอีก 6.8% เหลือ 167.87 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทจาก 6.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หายไปถึง 52% โดยในช่วงแรกนักลงทุนขายหุ้นเพราะความกังวลที่เขาปิดดีล Twitter มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเขากู้เงินถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีภาระผูกพันด้านหลักทรัพย์มูลค่า 3.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่โรงงานผลิตรถยนต์ของ Tesla ในจีนเองกำลังเจอกับข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาด COVID-19 ของจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ บริษัทในออสตินรัฐเทกซัสเพิ่งประกาศเรียกคืนรถยนต์กว่า 300,000 คันเนื่องจากไฟท้ายชำรุด ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับปัญหาซัพพลายเชนและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น
ไม่ใช่แค่ Tesla กำลังเผชิญกับปัญหา แต่หลายคนมองว่า มัสก์นั้นหมกมุ่นอยู่แต่กับ Twitter ซึ่งปัจจุบันมีแต่ข่าวแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นการแห่ลาออกของพนักงานกว่า 60% นับตั้งแต่มัสก์เข้ามารับตำแหน่ง แม้ว่าปัจจุบัน Twitter จะยืนยันว่าไม่มีการปลดพนักงานเพิ่มอีก และกำลังจะหาพนักงานใหม่เข้ามา และนับตั้งแต่มัสก์ซื้อ Twitter เขาก็ไม่ค่อยได้ทวีตเกี่ยวกับบริษัท Tesla เหมือนตอนที่เขายังไม่ได้ซื้อกิจการ
อย่างไรก็ตาม มัสก์ยังคงครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก แต่ก็มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าอันดับ 2 อย่าง เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของอนาจักรแฟชั่น LVMH ประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ