ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% เพื่อที่จะลดตัวเลขเงินเฟ้อลงมา และส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาในปี 2023 นั้นอาจอยู่ในช่วง 5% ถึง 5.25% อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์คาดว่า Fed เองอาจลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปี 2023 ได้
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% โดยจะทำให้ล่าสุดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้นอยู่ในช่วง 4.25% ถึง 4.50% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 15 ปี อย่างไรก็ดีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ของ Fed ถือว่าต่ำกว่าครั้งที่ผ่านมาที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 7 ในปีนี้โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และยังเป็นนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงยุค 1980 เป็นต้นมา ในถ้อยแถลงของ FOMC ครั้งนี้ยังยืนยันถึงความพยายามที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงมาสู่เป้าหมายที่ 2% ในระยะยาวให้ได้
นอกจากนี้การตอบสนองดังกล่าวตามมาจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนั้นอยู่ที่ 7.1% ซึ่งลดลงมาจากเดือนตุลาคมที่ 7.7% เล็กน้อย ขณะเดียวกันมุมมองของ FOMC ยังมองว่าอัตราดอกเบี้ยในช่วงปี 2023 นั้นมีสิทธิ์ที่จะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5% ถึง 5.25% และดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในช่วง 3% ในปี 2025
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าการขึ้นดอกเบี้ยนั้นต้องใช้เวลาที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ Fed เองจะต้องแน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นได้ลดลงมาจริงๆ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เงินเฟ้อนั้นลดลงมา
ในบทวิเคราะห์ของ Bank of America ได้ชี้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ตรงตามที่คาดไว้ และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ และอีก 0.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม นอกจากนี้ในบทวิเคราะห์ยังชี้ว่า Fed อาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคม