องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้เปิดเผยว่าในปี 2022 โลกได้ใช้ปริมาณถ่านหินทำสถิติมากที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา จากการที่รัสเซียได้บุกยูเครนส่งผลทำให้ราคาพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติมีราคาสูง ส่งผลทำให้หลายประเทศหันกลับมาใช้แหล่งพลังงานราคาถูกอย่างถ่านหินอีกครั้ง
รายงานของ IEA ได้คาดว่าปริมาณการใช้ถ่านหินในปีนี้จะเกิน 8,000 ล้านตัน เติบโต 1.2% จากปี 2021 ไม่เพียงเท่านี้รายงานดังกล่าวยังชี้ว่าประเทศผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ 3 ประเทศอย่างจีน อินเดีย อินโดนีเซีย นั้นมีปริมาณการผลิตทำสถิติใหม่ด้วย
นอกจากนี้สถิติในปี 2022 นั้นได้ทำลายสถิติการใช้ปริมาณถ่านหินซึ่งเคยสูงสุดในปี 2013 ด้วย
สาเหตุที่ทำให้ปริมาณการใช้ถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่นั้นมาจากปัญหาราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากรัสเซียได้บุกยูเครน ส่งผลทำให้ราคาพลังงานนั้นสูงขึ้นเนื่องจากหลายประเทศในยุโรปได้ทำการคว่ำบาตรรัสเซีย และไม่ซื้อพลังงานจากรัสเซียโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ส่งผลทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้หลายประเทศกลับมาใช้ถ่านหินเป็นพลังงานแทน
โดยประเทศที่ใช้พลังงานถ่านหินเพิ่มมากขึ้นคืออินเดียเพิ่มขึ้น 7% สหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 6% อย่างไรก็ดีการใช้พลังงานถ่านหินในจีนกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแค่ 0.4% เท่านั้น
Keisuke Sadamori ผู้อำนวยการด้านพลังงานและความมั่นคงของ IEA ได้กล่าวว่า โลกกำลังใกล้จุดสูงสุดที่มีการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล พลังงานถ่านหินจะเป็นพลังงานอย่างแรกที่จะมีการใช้งานลดลง (เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงกว่าพลังงานอื่น) อย่างไรก็ดีโลกยังไม่ถึงจุดที่มีการใช้ถ่านหินลดลงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีแม้ว่าราคาถ่านหินจะเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณความต้องการ แต่ในรายงานดังกล่าวยังชี้ว่าบริษัททั้งหลายที่เป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินนั้นแทบไม่ได้มีการลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด โดย IEA คาดว่าปริมาณการใช้ถ่านหินจะเริ่มลดลงในปี 2025