ช่อง 3 เปิดรับความลั่น! เดือน มกราคม กับละครใหม่แกะกล่อง และความบันเทิงครบเครื่องรับเดือนแรกของปี

เปิดเดือน มกราคม ไปกับผลงานละครใหม่ 4 เรื่อง เริ่มด้วย “18 มงกฎสะดุดรัก” ตามมาด้วยละครสุดเข้มข้นหลังข่าว เรื่อง สะใภ้สายสรอง” “เพราะรัก” และที่สุดของหัวใจ” ส่วนละครรีรันนำเรื่อง เลือดรักทระนง กลับมาเติมความสนุก พร้อมด้วยซีรีส์เกาหลี สัมผัสรัก ซ่อนวิญญาณ (Master’s Sun)” ซีรีส์จีน เพลงพิณโอบใจ (The Flame’s Daughter)สายใยรัก เหนือบัลลังก์” (I will never let you go) และเปิดช่วง ภาพยนตร์ไทย” วันหยุดมาเพิ่มเพื่อเสริมความสนุกตีคู่ไปกับ Ch3Movies หนังดีทุกวันเสาร์เต็มสตีม 

เริ่มต้นในกลุ่มละครกับละครเรื่อง “18 มงกุฎสะดุดเลิฟ” แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่นำเอาความโบ๊ะบ๊ะเฮฮาจัดเต็มครบเครื่อง นำโดยนางเอกสายฮา แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์” ในบท สะอิ้ง สาวสวย 18 มงกุฎกลับใจ ที่บังเอิญจับพลัดจับผลูมาเป็นนักร้องลูกทุ่งยอดวิวสูงปรี๊ด!ประกบคู่กับ เพ็ชร ฐกฤต ตวันพงค์” ฉายา “มือปราบมิจฉาชีพ” เจ้าของ “เพจเจาะเหลี่ยมโกง” เรื่องราวความชุลมุนของความรักและการหนีศัตรูที่คอยตามเช็คบิลจะสนุกแค่ไหน ผลงานของผู้จัด ต่าย นัฐฐพนท์ แห่งค่าย มอนทาจ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ นำเสนอทุกวันจันทร์ศุกร์ เวลา 19.00 – 20.00 น. เริ่ม 23 มกราคม 2566     

หลังจากนั้นพบกับละครหลังข่าว เริ่มที่ “สะใภ้สายสตรอง” ละครโรแมนติดคอมเมดี้ เรื่องราวของการก่อสงครามสุดแซ่! ระหว่างแม่ผัวตัวแสบที่ยืนหนึ่งกับคติประจำใจ อ่อนแอก็แพ้ไป !” ประทะลูกสะใภ้ยุค 5.0 ที่มีความสตรองเป็นอาวุธเด็ด! และเผ็ช! ไปด้วยคติประจำใจที่ว่า แพ้เป็นพระ ชนะต้องเป็น (ฉัน) คนเดียวเท่านั้น!!” ศึกครั้งนี้หนักหนายิ่งนัก นำแสดงโดย ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์” “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ประทะ หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ครั้งแรก แซ่บแน่! โดยผู้จัด คิง สมจริง ศรีสุภาพ แห่งค่าย กู๊ดฟีลลิ่ง ติดตามทุกจันทร์-อังคาร เวลา 20.30-22.00 น. เริ่ม 23 มกราคม 2566 ต่อด้วย เรื่อง “เพราะรัก” ละครแนวโรแมนติกดราม่าแอคชั่น ที่มีความสนุกแปลกใหม่และมีความเป็นแฟนตาซี นำโดย “พาย รินรดา” ในบท หริ่ง” เด็กกำพร้าที่มีความสามารถพิเศษมองเห็นเคราะห์ร้ายหรืออันตรายได้ล่วงหน้า เธอจึงกลายมาเป็นเกราะป้องกันภัยของ สิงห์บดินทร์ทายาทตระกูลสุริยะฤทธิ์ รับบทโดย “เจมส์ มาร์” เตรียมลุ้นไปกับการฟาดฟันบู๊เต็มคาราเบล ผลงานของผู้จัด ต้อง จุลวุฒิ ชลลัมพี” จากค่าย ชลลัมพีบราเธอร์ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30-22.00 น. เริ่ม 25 มกราคม 2566 และสุดท้ายกับละครเรื่อง “ที่สุดของหัวใจ” ผลงานโรแมนติกดราม่า ของผู้จัด ธัญนิธิ ฉันท์เอกสิทธิ์” บริษัท หก สี่ เอี่ยว จำกัด ที่บรรจงเรียงร้อยเรื่องราวความรักอย่างสุดฝีมือเพื่อถ่ายทอดให้รู้ว่า จะมีสักกี่คนที่รู้…ว่าที่สุดของใจของตัวเองคือใคร นำแสดงโดย พุฒิชัย เกษตรสิน และ แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด กับการเชือดเฉือนอารมณ์สุดเข้มข้นของเรื่องราวความรักที่เริ่มต้นด้วยความไม่ตั้งใจและการเอาชนะความเหลื่อมล้ำระหว่างหญิงและชาย จนลืมมองไปว่ายังมีผู้ชายอีกคนที่แตกต่างติดตามกันได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30-22.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ 

ส่วนด้านละครรีรันได้นำ เรื่อง เลือดรักทระนง” ผลงานสุดเข้มข้น ของ บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด มาให้รับชมกันอีกครั้ง ใครคิดถึง โป๊ป ธนวรรธน์” และ เดียร์น่า ฟลีโปกับความโรแมนติก ดราม่าของความรักและสายเลือด ที่ไม่ว่าจะเกิดมาจากสายเลือดที่ดีหรือชั่วถ้าคิดดีทำดี ก็เป็นคนดีได้เช่นกัน นำเสนอทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.30-22.30 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.25-22.25 น. เริ่ม 5 มกราคม 2566

มาถึง ซีรีส์เกาหลี เรื่อง “สัมผัสรักซ่อนวิญญาณ” ความตื่นเต้นของเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจาก แทกงชิล (กงฮโยจิน)  ประสบอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นคนมองเห็นวิญญาณ ซึ่งเธอไม่อยากเห็น และเมื่อมาพบกับ จูจุงวอน (โซจีซบ) ซึ่งเขาเป็นคนเดียวที่เมื่อได้มาอยู่ใกล้ ๆ จะทำให้เธอไม่ต้องเห็นวิญญาณเหล่านั้น แต่เธอจะต้องแลกด้วยการช่วยสืบหาความจริงของสาเหตุที่ทำให้แฟนของเขาต้องเสียชีวิต นำแสดงโดย โซจีซบ รับบท จูจุงวอน และ กงฮโยจินรับบท แทกงชิล ติดตามทุกคืนวันจันทร์-พุธ เวลา 23.00 น. เริ่ม 2 มกราคม 2566

ทางด้าน ซีรีส์จีน พบกับ “เพลงพิณโอบใจ” (The Flame’s Daughter) เรื่องราวของ เลี่ยหรูเกอ (ตี๋ลี่เร่อปา)  หญิงสาวผู้ร่าเริงสดใส แต่ต้องมาผิดหวังซ้ำ ๆ จาก จ้านฟง (จางปินปิน) ชายที่ตัวเองหลงรัก จนตัดสินใจถอยห่างและระหกระเหินไปด้วยความบอบช้ำ กว่าจะมาพบกับบุรุษรูปงามนามว่า หยินเสวี่ย (โจวอวี๋หมิน) ในเวลาต่อมา ความรักที่ตามหากันมาหลายภพชาตจึงได้เกิดขึ้น นำแสดงโดย โจวอวี๋หมิน รับบท หยินเสวี่ยตี๋ลี่เร่อปา รับบท เลี่ยหรูเกอ, จางปินปิน รับบท จ้านฟง ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 02.50 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 02.55 น. เริ่มวันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 และต่อด้วยเรื่อง “สายใยรัก เหนือบัลลังก์” (I will never let you go) โชคชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้คนเร่ร่อนอย่าง ฮวาปู๋ชี่ (หลินอีเฉิน) ได้มาพบกับอัศวินชุดดำ เฉินอวี่ (จางปินปิน) ที่เข้ามาช่วยเหลือให้รอดจากเหตุร้ายโดยไม่รู้ว่าเขาคือองค์รัชทายาท ความใกล้ชิดได้เกิดเป็นรักและกลายเป็นรักสามเศร้าเพราะเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว นำแสดงโดย หลินอีเฉิน รับบท ฮวาปู๋ชี่จางปินปิน รับบท เฉินอวี่หลิงไป่หง รับบท ตงฟางฉือ รับชมทุกจันทร์-อังคาร เวลา 00.45 น. วันพุธ เวลา 00.15 น. วันพฤหัสบดี เวลา 23.45 น. วันศุกร์ เวลา 00.30 น. เริ่ม 24 มกราคม 2566

และเปิดเวลาพิเศษกับความสนุกวันหยุด ในช่วง ภาพยนตร์ไทย” กับภาพยนตร์ไทยดี ๆ 9 เรื่องทุกวันอาทิตย์  ตั้งแต่ เวลา 16.00-17.30 เริ่ม วันอาทิตย์ที่ มกราคม 2566 กับเรื่อง ขาย 3 ไม่กินเส้นต่อด้วย อาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 เรื่องแฝดต่างขั้วจากนอกโลกตามมากับ อาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 กองร้อยล่าผี จะมาเรียกเสียงฮาให้ลั่นสนามฝึก ส่วนอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 “ขอโทษค่ะ หนูเป็นแมวมองอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 เตรียมขำกับเรื่อง คู่ซี้ผีตลก อาทิตย์ที่ กุมภาพันธ์ 2566 มาเขย่ากระบอกไม้ไผ่เสี่ยงรักกันด้วยเรื่อง เซียมซีป่วนรัก ฉึกฉึก” มาถึงอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ปรับโหมดไปที่รักต่างชนชั้นกับเรื่อง โจรห้าร้อยสาวน้อยพันล้านอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 คอหวยเตรียมดู พรุ่งนี้รวย หวยเอาอยู่”  และ อาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 ลิเกด๊องเต้นก้องโลก 

และในภาคดึกยืนหนึ่งทุกคืน วันเสาร์ ส่งเข้านอนกันด้วย แชนแนล ทรี มูฟวี่ส์ ส่งเข้านอนด้วยภาพยนตร์ดี ๆ เริ่มกันที่ช่วงเวลาแรก 23.55-01.55 . ของวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2566 พบกับ ภาพยนตร์เรื่อง Rich & Famous (ต้นตระกูลโหด) นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ, หลิวเต๋อหัว, ว่านจือเหลียง, อลันทัม ส่วน เสาร์ที่ 14 มกราคม 2566  ภาพยนตร์เรื่อง The Accidental Spy (วิ่งระเบิดฟัด) นำแสดงโดย เฉินหลง, วิเวียนซู, คิมมินจอง และอีกหนึ่งช่วงเวลา ตั้งแต่ เวลา 23.40–01.40 น. เริ่มวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 พบกับ ภาพยนตร์เรื่อง Perfect Exchange (สองใหญ่แย่งใหญ่) นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัวเหลียงเจียฮุยจงลี่ถี ปิดสุดท้ายที่ เสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 กับภาพยนตร์เรื่อง City Hunter (ใหญ่ไม่ใหญ่ข้าก็ใหญ่) นำแสดงโดย เฉินหลงไมเคิล หว่องหวังจู่เสียน, ซิวซู่เจินหลี่หมิง

มาเริ่มต้นเดือน มกราคม 2566 กับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ที่ผู้ชมจะ “คุ้มค่า ทุกนาที ดูทีวีสี ช่อง 3 

ดูทีวี กด 33 ดูมือถือ กด 3Plus”