หลังจากที่ช่วงปี 2020-2021 ผู้คนต้อง Work From Home อยู่ที่บ้าน คอมพิวเตอร์-โน้ตบุ๊ก จึงเป็นสินค้าที่ได้อานิสงส์ไปเต็ม ๆ อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 ตลาดก็ไม่ได้เติบโตเนื่องจากผู้บริโภคซื้อสินค้าเพื่อใช้งานไปแล้ว และนั่นก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง AMD ได้ผลกระทบอย่างหนัก
สำหรับตัวเลขของตลาดคอมพิวเตอร์-โน้ตบุ๊กปี 2022 ทาง IDC รายงานว่าทั้งตลาดมียอดจัดส่งจำนวน 292.3 ล้านเครื่อง ซึ่งทั้ง IDC และ Garther คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี (2023-2024) ที่ตลาดจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขณะที่ Lisa Su ซีอีโอของ AMD คาดการณ์ว่า ตลาดรวมของคอมพิวเตอร์-โน้ตบุ๊กโลกในปี 2023 จะยังตกต่ำในช่วงครึ่งปีแรก แต่จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งภาพรวมทั้งปีน่าจะมียอดส่งมอบราว 260 ล้านเครื่อง ติดลบ -10%
ส่วนรายได้ของบริษัทช่วงไตรมาสแรกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 10%
“ครึ่งปีแรกจะลดลงอย่างแน่นอน เราคาดว่าไตรมาสแรกของปีนี้จะเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของ AMD แต่เราเชื่อว่าตลาดจะมีการปรับปรุงที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง” Lisa Su กล่าว
ในช่วงไตรมาส 4/2022 รายได้ของ AMD อยู่ที่ 5,599 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 16% มี กำไร 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง ลดลงมากถึง 98% เนื่องจากมีการซื้อกิจการ Xilinx โดยกลุ่มที่เติบโตจะมาจากธุรกิจ Data Center เพิ่มขึ้น 42% ส่วนกลุ่มชิปในพีซี และ GPU สำหรับเล่นเกมลดลงถึง 51% เหลือ 903 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความต้องการพีซีในตลาดที่ลดลง โดยเฉพาะ กลุ่มเกมมิ่งรายได้ลดลง 7%
โดยในช่วงไตรมาสหน้า AMD คาดการณ์ว่าทั้ง กลุ่ม Client และรายได้จากเกมจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 7000 รุ่นใหม่ ซีพียูแล็ปท็อป 7000 และชิปมือถือ RDNA 3 จะวางตลาดก็ตาม โดยสำหรับปี 2023 นี้ AMD คาดว่าจะมีโน้ตบุ๊กที่ขับเคลื่อนด้วยชิปจาก AMD จำนวน 250 รุ่น โดยบริษัทพยายามจะ ลด โปรเซสเซอร์และ GPU ของตนเข้าสู่ตลาด จนกว่าความต้องการของผู้บริโภคจะฟื้นตัว
ทั้งนี้ Gartner ระบุว่า การตกต่ำของพีซีในปัจจุบัน ถือเป็นการลดลงของการจัดส่งรายไตรมาสที่มากที่สุดนับตั้งแต่ Gartner เริ่มติดตามตลาดพีซีในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 เนื่องจากมีวิกฤตเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น, การคาดการณ์ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และผู้บริโภคจำนวนมากซื้อพีซีเครื่องใหม่ไปแล้วในช่วงที่มีการระบาดทำให้ความต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ลดลง
ไม่ใช่แค่ AMD ที่ได้ผลกระทบดังกล่าว แต่คู่แข่งอย่าง Intel ก็เจ็บหนัก โดยบริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 1/2023 บริษัทจะมีรายได้ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง -40% โดยรายได้จากกลุ่มชิปสำหรับพีซีลดลง -36% แม้จะเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า AMD แต่เกิดจากฐานที่ใหญ่กว่ามาก